posttoday

"อนุพงษ์"ปาฐกถารวมไทยสร้างชาติย้ำอปท.ดูแลประชาชน

28 สิงหาคม 2563

เชียงใหม่-มท.1 ปาฐกถาพิเศษ "รวมไทยสร้างชาติ" เน้นย้ำ อปท. เป็นหัวใจของการบริการสาธารณะเพื่อดูแลทุกข์สุขของประชาชน

พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกล่าวเปิดการสัมมนาและปาฐกถาพิเศษ เรื่อง การบริหารราชการของรัฐบาล "รวมไทยสร้างชาติ" ในงานสัมมนาวิชาการบริบทของท้องถิ่นกับการพัฒนาประเทศ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ภายหลังวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รัฐบาลได้มีแนวคิดในการดำเนินการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานแบบใหม่ (New Normal) ภายใต้บริบทการเปลี่ยนแปลง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการ ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการประชาชน แต่ต้องทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีให้ได้ ทั้งเรื่องการทำมาหากิน และภัยสังคม โดยทุกภาคส่วนและทุกระดับในสังคมเข้ามามีส่วนร่วมและมีบทบาทในการช่วยกำหนดอนาคตของประเทศ  ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ถือเป็นหัวใจของการบริการสาธารณะ เป็นหน่วยการปกครองที่ดูแลพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นตามอำนาจหน้าที่ถือเป็นกลไกที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการตอบสนองประชาชน

"อนุพงษ์"ปาฐกถารวมไทยสร้างชาติย้ำอปท.ดูแลประชาชน

สำหรับแนวทางการดำเนินงาน "รวมไทยสร้างชาติ"มีหลักการดำเนินงานสำคัญ 3 ประการ คือ  1) รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมเสนอความคิดเห็น ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตัดสินใจ 2) ต้องมีการประเมินผลสัมฤทธิ์ (Outcome) ว่าเมื่อดำเนินงานแล้ว เกิดความเปลี่ยนแปลง หรือเกิดประโยชน์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stake Holder) อย่างไร และ 3) ต้องทำงานเชิงรุก ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานโดยจัดลำดับความสำคัญของการดำเนินงานให้ตอบสนองประชาชนอย่างรวดเร็ว เป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีกลไกการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ผ่านการออกข้อบัญญัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมีแผนพัฒนาท้องถิ่นที่ยึดโยงสอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด และแผนชาติ ดังนั้น จึงต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน

"อนุพงษ์"ปาฐกถารวมไทยสร้างชาติย้ำอปท.ดูแลประชาชน

แนวคิดขับเคลื่อน "ไทยไปด้วยกัน" เป็นแนวคิดในการติดตาม เร่งรัด ช่วยเหลือเยียวยา และขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่  โดยเริ่มจากปัญหาที่เป็นความเดือดร้อนเร่งด่วน เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมและรวดเร็วทันเหตุการณ์ โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 242/2563 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน มีกลไกการดำเนินงาน แบ่งเป็น 1) ระดับอำนวยการ โดยคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ และมอบหมายรัฐมนตรีคนหนึ่งรับผิดชอบในระดับพื้นที่จังหวัด และ 2) ระดับพื้นที่ โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ทำหน้าที่ติดตามรับฟังและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนในระดับจังหวัด ตอบสนองความต้องการของประชาชนในจังหวัดให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมและรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ บูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างเป็นระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งสร้างความตระหนักรู้ความเข้าใจกับประชาชนให้เห็นความจำเป็นในการร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เป็นต้น

"อนุพงษ์"ปาฐกถารวมไทยสร้างชาติย้ำอปท.ดูแลประชาชน

ทั้งนี้ มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ด้วยกลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกองค์กร ด้วยการรณรงค์ลดการใกล้ชิดกัน ลดการสัมผัสกัน และเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และกิจกรรมที่มีความสำคัญยิ่ง คือ การอบรมการทำหน้ากากผ้าเพื่อแจกจ่ายพี่น้องประชาชนกว่า 50 ล้านชิ้น ทำให้คนไทยทุกคนสามารถใช้ชีวิตวิถีใหม่ ปลอดการติดเชื้อ รวมทั้งการดำเนินงาน Local Quarantine ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานสาธารณสุข จึงขอให้ดำเนินการต่อไป เพื่อให้ประชาชนและประเทศไทยปลอดการติดเชื้อโควิด-19