ผู้ว่าฯตากสั่งสอบนายกอบต.จัดงานจับปลาบึกยักษ์หน้าวัดพระบรมธาตุ

เมื่อวันที่ 24 ส.ค.นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก และฝ่ายทหาร มณฑลทหารบกที่ 310 ตาก เดินทางลงพื้นที่หนองเล่ม ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก สืบเนื่องจาก อบต.เกาะตะเภา อ.บ้านตากได้ จัดกิจกรรมทอดแหในหนองน้ำเล่ม หมู่ 4 บริเวณหน้าวัดพระบรมธาตุ เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งถูกโซเซียลรุมถล่มอย่างหนัก ประกอบกับชาวบ้านรู้สึกหดหู่ใจเมื่อได้เห็นมีการจับปลาบึกตัวใหญ่มีน้ำหนักกว่า 150-250 กิโลกรัม ถูกจับขึ้นมาจากหนองเล่ม บางตัวถูกชำแหละขาย หรือนำใส่ท้ายรถกระบะเพื่อค้ากำไร โดยชาวบ้านมองว่าปลาบึกเหล่านี้ถูกปล่อยไว้ในเขตอภัยทาน

ทั้งนี้ ทาง อบต.เกาะตะเภาอ้างว่าต้องนำปลาออกจากหนองเล่ม เพราะมีโครงการขุดลอก แต่ชาวบ้านมองว่าไม่จำเป็นต้องจัดกิจกรรมล่าชีวิตสัตว์ ควรจับไปปล่อยให้ขยายพันธุ์ที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก อีกทั้งการจัดกิจกรรมทอดแหยังเป็นการฝ่าฝืนประกาศกรมประมงที่ห้ามล่าสัตว์น้ำในฤดูน้ำแดงหรือฤดูปลาวางไข่ ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย.-31 ส.ค.2563

ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาประชุม ทั้งฝ่ายกฎหมาย อัยการ ทหาร ตำรวจ นายอำเภอ ที่ดิน ประมง ฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น สาธารณสุข เพื่อติดตามข้อเท็จจริงของเรื่องราวทั้งหมด ก่อนลงพื้นที่หนองเล่มและยังได้สอบถามนายทวี เคลือบวัง นายกอบต.เกาะตะเภา ถึงเหตุการณ์ทั้งหมด

นายกอบต.เกาะตะเภา ชี้แจงว่า ได้มีการทำประชาคมในพื้นที่แล้ว เพื่อขอให้จับปลาในหนองเล่มได้ ต่อมาก็มีบุคคลมาดำเนินการต่อเพื่อจัดกิจกรรมขายบัตรให้กับผู้สนใจมาทอดแหราคาใบละ 600 บาท มีผู้เข้าร่วมประมาณ 600 คน ได้เห็นภาพว่าหนองน้ำมีปลาบึกขนาดใหญ่มากประมาณ 14 ตัว ทางผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้นได้ซื้อหามาปล่อยในหนองน้ำนี้เกิน 10 ปีแล้ว ปล่อยเสร็จปลาก็เติบโต ส่วนกรณีแชร์กันในโซเชียลว่าหนองน้ำเป็นเขตอภัยทานได้สอบถามจากเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุบ้านตาก ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับหนองน้ำแล้วว่า ไม่ใช่เขตอภัยทาน เป็นเขตของหมู่ 4 ต.เกาะตะเภา  

อย่างไรก็ตาม แม้หนองน้ำแห่งนี้ไม่ใช่เขตอภัยทาน ในส่วนของอำนาจหน้าที่ของ นายกอบต.เกาะตะเภา มีอำนาจหน้าที่ ต้องดูแลผลประโยชน์ของประชาชน และดูแลสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ การกระทำการแบบนี้ชอบด้วยกฎหมาย เป็นอำนาจหน้าที่หรือไม่ ผู้ว่าราชการจังหวัตากจึงให้อำเภอบ้านตากตั้งกรรมการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน เพื่อให้เกิดความชัดเจน