เร่งซ่อมยอดฉัตรหอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวรฯกถูกพายุพัดหัก

เมื่อวันที่ 28 ก.ค.จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์พายุฝนพัดโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จนทำให้ยอดฉัตรหอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดเทวสังฆาราม (พระอารามหลวง) หรือวัดเหนือ ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ริมแม่น้ำแควใหญ่ด้านทิศตะวันออก ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจพุทธศาสนิกชนชาวกาญจนบุรี ถูกพัดพังถล่มลงมา ได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการให้ เสกสม ลินดาพรประเสริฐ ป้องกันจังหวัด พร้อมวิศวกรโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบและสำรวจความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการบูรณะซ่อมหอพระประวัติฯ โดยมีท่านเจ้าคุณพระกิตติสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆาราม พระอารามหลวง นำตรวจพื้นที่ โดยเบื้องต้นจะบูรณะซ่อมแซมในส่วนที่ได้รับความเสียหาย และเสริมในส่วนที่ชำรุดให้มีความมั่นคงแข็งแรงขึ้นตามมาตรฐานหลักวิศวกรรมที่ได้คำนวณไว้ โดยจะดำเนินการเปลี่ยนโครงเหล็กยอดฉัตรจากเหล็กกล่อง เป็นเหล็กฉากชุบซิงค์ ส่วนตัวหุ้มยอดฉัตรก็จะเปลี่ยนจากไฟเบอร์กลาส เป็นเหล็กแผ่นพ่นสีรถยนต์ ส่วนการปรับใหม่ทั้งหมดไม่สามารถทำได้ เพราะจะทำให้กระทบโครงสร้างรวมของเจดีย์ทั้งหมด

นายจีระเกียรติ เปิดเผยว่า การบูรณะซ่อมแซมยอดพระเจดีย์หอพระประวัติ รวมทั้งปรับปรุงตัวอาคาร จะไม่ใช้งบประมาณของราชการ เนื่องจาก นางลำใย? สิริเวชชะพันธ์? หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า คุณแม่ลำใย อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์จังหวัดกาญจนบุรี? ได้แจ้งตนว่าให้ทำการซ่อมแซมในทันที โดยจะรวบรวมเงินจากญาติมิตร ลูกศิษย์ลูกหา ขาดเหลือเท่าไหร่จะเติมให้จนครบเอง หลังจากชาวกาญจนบุรีได้ทราบข่าวก็ได้ร่วมกันบริจาคเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยมียอดบริจาค 4 วันรวม 880,959 บาท คาดว่าเพียงพอต่อการซ่อมแซม จึงได้ปิดรับบริจาคแล้ว และขออนุโมทนาบุญกับผู้บริจาค

สำหรับ กำหนดการซ่อมแซมนับจากนี้อีกประมาณ 3 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ ในส่วนของเงินบริจาคที่เหลือจากการซ่อมแซม และจัดพิธียกยอดฉัตรเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว จะมอบให้กับทางวัดเทวสังฆารามทั้งหมด  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตในเรื่องของคุณภาพการก่อสร้าง เนื่องจากตรวจสอบโครงสร้างของยอดพระเจดีย์ที่หักโค่นลงมาพบว่า โครงสร้างไม่มีความแข็งแรง โดยจุดเชื่อมของเหล็กถูกเชื่อมไว้เพียงเล็กน้อย และเหล็กก็มีสภาพเก่าผุพังถูกสนิมกินทั้งหมด ทั้งๆ ที่ก่อสร้างเสร็จได้เพียง 7 ปี เท่านั้น อีกทั้งใช้งบประมาณในการก่อสร้างจำนวนมาก