posttoday

ชาวสามร้อยอดโวยทางลอดรถไฟรางคู่คับแคบกระทบอาชีพเกษตร

04 มิถุนายน 2563

ประจวบคีรีขันธ์-ชาวสามร้อยยอด โวยทางลอดรถไฟรางคู่ คับแคบกระทบอาชีพเกษตร ขอปรับแก้ไขความสูง3.80ม.กว้าง4ม.

เมื่อวันที่ 4มิ.ย.63 ชาวบ้านหมู่ 4 ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กำลังได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบจากโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ที่มีการก่อสร้างทางลอดใต้ทางรถไฟที่มีขนาดเล็กมีความคับแคบกระทบ ส่งผลกระทบต่ออาชีพ ร้องขอให้เร่งแก้ไขด่วน จากความสูงขนาด 2.20เมตร กว้าง2เมตร เป็น3.80 เมตร ความกว้าง 4 เมตร 

บริเวณจุดตัดทางรถไฟอยู่ในเทศบาลตำบลไร่เก่าที่เตรียมเปิดใช้ รถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนบุคคล และรถกระบะ สามารถผ่านได้แบบพอดีคัน ส่วนรถบรรทุกสินค้าพืชผลทางการเกษตร เครื่องจักร แบ็กโฮ รถไถ รถห้องเย็น รถหกล้อและรถบรรทุกขนาดใหญ่ไม่สามารถที่จะขับลอดทางไปได้ เชื่อว่าหลังการรถไฟก่อสร้างเสร็จและเปิดใช้ทางลอด จะมีชาวบ้านเดือดร้อนนับ 1,000 ราย เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ เป็นพื้นที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และประมง มีบ่อเลี้ยงกุ้งจำนวนมากกว่า 50 บ่อ สวนปาล์มน้ำมัน ฟาร์มจระเข้ นาข้าว และอาชีพจับปลาในทุ่งสามร้อยอด

ชาวสามร้อยอดโวยทางลอดรถไฟรางคู่คับแคบกระทบอาชีพเกษตร

ก่อนหน้านี้ การรถไฟฯ มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านได้เสนอให้ขยายทางลอดจากแบบเดิมให้กว้างขึ้น เพื่อให้รถบรรทุกขนาดใหญ่สามารถสัญจรผ่านได้ ซึ่งในที่ประชุม การรถไฟฯ ยอมรับจะไปปรับแบบให้ ขณะที่การก่อสร้างทางลอด ชาวบ้านคิดว่าเป็นทางลอดระบายน้ำเพราะไม่ใช่ขนาดที่ตกลงกัน

นายชาคริต ทรัพย์เจริญกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ศาลาลัย กล่าวว่า ได้แจ้งไปทางการรถไฟฯ แล้ว และได้มีการประชุมกันหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไปตามแผนที่ชาวบ้านเสนอไว้ คือ ทางลอดมีสูงอย่างน้อย 3.80 เมตร ความกว้าง 4 เมตร

จ.ส.อ.อภิรักษ์ แก้วเนตร ผู้เลี้ยงกุ้งขาว เปิดเผยว่า จำเป็นต้องใช้รถใหญ่ตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป รวมไปถึงรถไถ รถแบ็กโฮ ที่จะต้องนำเข้ามาเพื่อกวาดพื้นกวาดบ่ออยู่ตลอด ก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมร่วมกันหลายครั้งทางการรถไฟฯ ก็ที่ตกลงกันไว้ว่าสูง 3.80 เมตรก็ไม่ได้ ที่ทำได้คือช่องทางเล็กๆหากเป็นแบบนี้ต่อไปคงทำกินกันไม่ได้

ชาวสามร้อยอดโวยทางลอดรถไฟรางคู่คับแคบกระทบอาชีพเกษตร

นางสุรินทร์ บัวล้อม ชาวนาขนาด 5 ไร่ ติดกับทางรถไฟ กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่ชาวนาพบคือน้ำที่สะพานตรงนี้ออกไม่ได้ไม่สะดวกฝนตกน้ำเยอะๆทำให้ท่วมข้าวมิดหมดซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีท่วมขังนาน จะท่วมก็ประมาณ 5-6 วัน น้ำก็สามารถระบายได้หมด ข้าวก็ไม่เสียหายแต่ตอนนี้ที่ท่วมเพราะมีการปิดกั้นทางถ้าน้ำมาเยอะก็ออกไม่ทันพอท่วมที 7-8 วัน ข้าวก็เสียเน่าตาย 

นายสุเมธ ปัญญาสาคร ผู้ดูแลฟาร์มจระเข้ศรีราชาฟาร์ม กล่าวว่า จะต้องมีการขนส่งตัวจระเข้กลับไปที่ศรีราชา ปีหนึ่งก็ต้องทำการขนส่งกันประมาณ 6 เดือน ก็จะต้องใช้รถตั้ง 6 ล้อขึ้นไป ไม่สามารถลอดอุโมงค์ตรงนี้ได้ ไม่สามารถส่งจระเข้ได้ และก็ยังมีเรื่องของรถขนส่งอาหารที่ต้องนำเข้ามาให้จระเข้ด้วยซึ่งตอนนี้จระเข้ในฟาร์มมีประมาณ 40,000 กว่าตัว อีกทั้งการรถไฟไม่ได้ทำทางคู่ขนาดไปยังทางข้ามอื่น ที่อยู่ห่างไป กว่า 3กิโลเมตร เพราะมีการล้อมรั้วเต็มพื้นที่หากขนส่งไม่ได้คงเดือดร้อนหนัก