posttoday

เจ้าอาวาสวัดดังรุดชี้ตัวผู้กองเก๊อยู่กองปราบ ตำรวจฝากขังค้านประกัน

30 พฤษภาคม 2563

บุรีรัมย์-เจ้าอาวาสวัดดังรุดชี้ตัวผู้กองเก๊อยู่กองปราบ ผู้ต้องหายังอ้างมีคลิปหลวงพ่อดื่มเหล้า ตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนักนำตัวฝากขังค้านประกัน

กรณีนายอรรฆเดช ขันน้อย อายุ 35 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บุกเข้าไปภายในวัดกมลาวาส ต.บ้านดู่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ อ้างว่าเป็น “ผู้กองณัฐ” ตำรวจสังกัดกองปราบขู่กรรโชกเรียกเอาเงินจากพระอธิการศักดิ์ วิสุทธสีโล อายุ 63 ปี เจ้าอาวาสวัด จำนวน 250,000 บาท และกล่าวหา เจ้าอาวาสว่าขับรถเร็ว ดื่มสุรา โกงเงินวัด และขับรถชนคนบาดเจ็บ ทั้งที่เจ้าอาวาสยืนยันว่าไม่เคยกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา สุดท้ายพี่สาวเจ้าอาวาสต้องยอมถอดสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท และเงินสดอีก 5,000 บาทเหตุเกิดเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 24 พ.ค.63

ต่อมาเมื่อวันที่ 29พ.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามสามารถติดตามจับกุมตัวนายอรรฆเดชได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม พร้อมรถจักรยานยนต์ของกลางที่ใช้ประกอบเหตุ แล้วคุมตัวไปสอบปากคำและแถลงข่าวที่กองปราบปราม และส่งตัวให้สภ.นาโพธิ์ดำเนินคดี

เจ้าอาวาสวัดดังรุดชี้ตัวผู้กองเก๊อยู่กองปราบ ตำรวจฝากขังค้านประกัน

ล่าสุด พระอธิการศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดอมลาวาสผู้เสียหาย พร้อมญาติโยมที่อยู่ในเหตุการณ์ มาชี้ตัวนายอรรฆเดช ผู้ต้องหาที่ สภ.นาโพธิ์ พร้อมสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อประกอบสำนวนคดี เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อหา “กรรโชกทรัพย์ , มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน” พร้อมทำเรื่องส่งฝากขังเรือนจำจ.บุรีรัมย์วันนี้ และคัดค้านการประกันตัว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายอรรฆเดช กลับเข้าห้องขังเพื่อรอทำเรื่องส่งฝากขังผู้ต้องหาก็ไม่มีท่าทีสำนึกยังตะโกนว่าตนเองมีคลิปหลักฐานเจ้าอาวาสดื่มเหล้า พร้อมมอบให้สื่อซึ่งเป็นพระ ส่วนไปขู่กรรโชกเอาเงินก็ยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำแต่เป็นพระดื่มเหล้าก็ไม่สมควรญาติโยมเขาจะไม่กราบไหว้

เจ้าอาวาสวัดดังรุดชี้ตัวผู้กองเก๊อยู่กองปราบ ตำรวจฝากขังค้านประกัน

ขณะที่เจ้าอาวาส ก็บอกว่า ไม่ได้ถือโกรธผู้ต้องหาที่ยังพูดกล่าวหาใส่ร้ายว่าดื่มเหล้า เพราะยืนยันว่าไม่ได้ดื่ม และไม่ได้กระทำผิดตามที่คนร้ายกล่าวหา แต่อยากจะเตือนสติว่าทำผิดก็ควรยอมรับผิดและไม่ควรไปกระทำแบบนี้กับคนอื่นอีก เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้วยังบาปกรรมด้วย ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมายส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายขู่รีดเอาไปหากเป็นไปได้ก็อยากจะได้คืนเพราะเป็นทรัพย์สินของพี่สาว

ด้านนางเสาร์ สุโพธิ์ พี่สาวเจ้าอาวาส บอกว่า ที่มาวันนี้เพราะตั้งใจจะมาดูหน้าผู้ต้องหาที่กล้ามาข่มขู่รีดไถได้แม้กระทั่งกับพระโดยไม่กลัวบาปกรรมแต่พอเห็นหน้าและคำพูดของคนร้ายที่ไม่ได้สำนึกผิดกับสิ่งที่กระทำเลย ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ส่วนทองหนัก 3 บาปที่ถูกคนร้ายขู่รีดเอาไปก็อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามเอาคืนเพราะกว่าจะได้มาและมีอยู่แค่นี้.