posttoday

ฉะเชิงเทราดับโควิดแล้ว 1 ราย มีติดเชื้อเพิ่ม

11 เมษายน 2563

ผู้ว่าฯฉะเชิงเทราแถลงยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 20 ราย เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ รายที่ 21 สาวประกัน รอสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมสั่งสาธารณสุขจังหวัดกักตัวญาติพี่น้องทั้งหมดแล้ว

เมื่อวันที่ 10 เม.ย.63 เวลา 20.59 น. สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ฉะเชิงเทรา เผยแพร่คลิปการแถลงข่าวของนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ยืนยัน จ.ฉะเชิงเทรา พบมีผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นรายแรกในพื้นที่ เป็นหญิงวัย 42 ปี ที่ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง (SLE) หรือโรคพุ่มพวง ก่อนปรากฏอาการ และมาเข้ารับการรักษาในขณะที่มีอาการหนักแล้ว โดยมีอาการท้องเสีย เดินทางมาเข้ารับการักษายังที่ รพ.สนามชัยเขต จากนั้นได้มีอาการปอดอักเสบตามมา ผลการตรวจออกมาภายหลังระบุยืนยันว่าเป็นบวก หรือติดเชื้อไวรัสโควิด 19 และเสียชีวิตลง ซึ่งทางญาติได้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจไปแล้วเมื่อวันที่ 9 เม.ย. ขณะที่ทางแพทย์ได้ไปขอทำการเจาะเอาเนื้อจากปอดเพื่อนำไปตรวจสอบดูให้ชัดอีกครั้ง เนื่องจากเดิมมีอาการป่วยด้วยโรค SLE มีปัญหาเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ สถิติผู้ป่วยใน จ.ฉะเชิงเทรา ในขณะนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อแล้วจำนวน 20 ราย รักษาหายจนกลับบ้านได้แล้ว 13 ราย แต่ยังคงต้องกักตัวอยู่ก่อน 14 วัน และยังนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีก 6 ราย เสียชีวิต 1 ราย

ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ส่วนรายที่ 21 นั้นยังไม่ยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยในพื้นที่หรือไม่ เนื่องจากได้ไปเข้ารับการรักษาตัวอยู่ใน รพ.ที่กรุงเทพฯ เป็นสาวขายประกัน ที่ออกมาเปิดเผยตัวตนเองผ่านทางโลกโซเชียลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา แต่อยู่ในกรุงเทพฯ ตลอด จึงยังไม่ชัดเจนว่าอยู่ในโควต้าของกรุงเทพฯ หรือของ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งในทางการทำงานนั้น ได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่แพทย์สาธารณสุขไปทำการกักตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง ญาติพี่น้องทั้งหมดที่อยู่ในจังหวัดไว้ก่อนแล้ว ซึ่งจะถือว่าเป็นรายที่ 21 ของ จ.ฉะเชิงเทรา ก็ได้ แต่ขอเพียงความชัดเจนเท่านั้น ว่าจะยืนยันเป็นคนที่ไหนและต้องกักตัวใครบ้าง และใครที่รู้ตัวว่าได้เข้ามาสัมผัสใกล้ชิดกับสาวขายประกันรายนี้ ขอให้แจ้งมายังที่ฮอตไลน์โควิดของจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่หมายเลขโทรศัพท์ 094-7922525 และ 038-511208-10

นายระพี กล่าวว่า โดยจุดเปราะบางต่อการติดเชื้อของจังหวัด คือ ตามตลาดนัด ตลาดสด และโรงงานอุตสาหกรรม จึงขอให้ประชาชนใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลา และล้างมือกันบ่อยๆ ไม่ขยี้หู ขยี้ตา รักกัน ส่งความรักถึงกัน ด้วยการอยู่ห่างๆ กันไว้ ถือเป็นสิ่งเดียวที่จะยับยั้งโรคร้ายชนิดนี้ได้ โดยขอให้อยู่แต่ในบ้านในครอบครัว ไม่จำเป็นอย่าออกไปไหน