posttoday

บุรีรัมย์ห้ามขายเหล้าทำหนุ่มวัย 40 ลงแดงเสียชีวิต แม่เผยลูกต้องดื่มวันละ 2 ขวด

10 เมษายน 2563

หนุ่มวัย 40 ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ นอนตัวแข็งเสียชีวิตภายในบ้าน แม่เผยลูกดื่มเหล้าเป็นประจำวันละ 2 ขวด แต่หลังจากมีประกาศห้ามขายเหล้าก็ไม่มีใครกล้าขายให้ คาดขาดเหล้าทำให้ลงแดงช็อกเสียชีวิต

ร.ต.อ.ณภัทร สุทธิธนากุล รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งพบศพชายนอนเสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่งใน อ.นางรอง จึงได้ประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนางรอง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ประจำจุดอำเภอนางรอง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพนายแดง (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้าย คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง จากนั้นแพทย์เวร และหน่วยกู้ภัย ซึ่งสวมชุดป้องกันเชื้ออย่างมิดชิด ก็ได้ทำการตรวจสภาพศพ ก่อนนำส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบสวนนางเอ (นามสมมติ) อายุ 70 ปี แม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกชายเป็นช่างซ่อมรถอยู่ที่ จ.นนทบุรี พึ่งเดินทางกลับมาบ้านที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ได้ประมาณ 10 วัน โดยล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ยังนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน แต่สังเกตเห็นว่าลูกไม่ค่อยพูด จนกระทั่งวันนี้ตนก็ออกไปโรงพยาบาลกลับเข้ามาบ้านก็ไปเรียกลูกชายมากินข้าว แต่ลูกก็นอนนิ่งเรียกไม่ตอบ เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆถึงเห็นลูกนอนตัวแข็งเสียชีวิตแล้ว

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายนั้น ก็คาดว่าอาจจะเพราะลูกเป็นคนชอบดื่มเหล้า และจะดื่มเหล้าขาวเป็นประจำวันละ 2 ขวด ก็เคยบอกให้เลิกหลายครั้งแต่ลูกก็ไม่ฟัง แต่หลังจากทางจังหวัดได้มีการออกประกาศห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เมื่อสัปดาห์ก่อน หากร้านค้าใดฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย จึงไม่มีร้านค้าไหนกล้าขายเหล้าให้ ทำให้ลูกชายไม่ได้ดื่มเหล้าจนทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน หรือเรียกว่า "ลงแดง" จนเสียชีวิตดังกล่าว

จากนั้นแพทย์ได้ประสานไปยังพี่ชายผู้ตายซึ่งอยู่ที่ จ.นนทบุรี เพื่อซักถามข้อมูลเพิ่มเติม ก็ทราบว่าผู้ตายเคยมีอาชีพขับรถตู้ให้ทัวร์จีน แต่ได้หยุดขับรถไปนานหลายเดือนแล้ว และก็ไม่เคยมีอาการผิดปกติอะไร วัดอุณหภูมิล่าสุดก็อยู่ที่ 34-35 องศา ไม่มีอาการไข้หรือเข้าข่ายการติดเชื้อ โควิด -19 อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ส่งศพตรวจชันสูตรให้แน่ชัดอีกครั้ง