posttoday

พบบุคลากรทางการแพทย์ภูเก็ตกว่า 100 คนเสี่ยงติดโควิด-19 เหตุคนไข้ปกปิดข้อมูล

06 เมษายน 2563

ภูเก็ต-ผอ.รพ.วชิระภูเก็ตชี้แจงบุคลากรทางการแพทย์ภูเก็ตกว่า 100 คนเสี่ยงติดโควิด-19 จากการสัมผัสใกล้ชิดชายชาวฮังการีที่ประสบอุบัติเหตุแต่ไม่แจ้งประวัติควาามเสี่ยงให้ทราบตั้งแต่แรก กระทั่งมาเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 6 เม.ย.นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตโดยกล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดภูเก็ต ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย หายป่วยกลับบ้านแล้ว 29 ราย รอผลตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 98 ราย

ทั้งนี้ นพ.เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต ได้ให้ข้อมูลผู้เสียชีวิตชาวฮังการึต่อที่ประชุมฯ ว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค.63 มีนักท่องเที่ยวชายชาวฮังการีได้ประสบอุบัติเหตุทางถนนแล้วถูกส่งตัวมารักษาที่รพ.ฉลอง จากนั้นวันเดียวกันได้ถูกส่งตัวมารักษาต่อที่รพ.วชิระภูเก็ต ขณะนั้นผู้ป่วยมีอาการชา แขน ขา อ่อนแรงทั้ง 2 ข้าง ยังรู้สึกตัวพูดคุยได้ แต่ผู้ป่วยไม่ได้แจ้งข้อมูลความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคโควิด-19 แต่อย่างใด

หลังจากถูกส่งตัวมารักษาต่อที่รพ.วชิระภูเก็ต แพทย์ได้ทำการเอกซเรย์พบกระดูกบริเวณต้นคอท่อนที่ 6 หัก เส้นประสาทไขสันหลังที่ต้นคอฉีกขาด ได้รับการผ่าตัดในทันที หลังผ่าตัดผู้ป่วยรู้สึกตัวพูดคุยดี และพักรักษาอยู่โรงพยาบาลได้รับการดูแลจากแพทย์และพยาบาลเป็นอย่างดีอย่างใกล้ชิดตลอด

ต่อมา วันที่ 29 เม.ย.เพื่อนผู้ป่วยจากพื้นที่บางลา ป่าตอง มาเยี่ยมทำให้ทีมงานสงสัยว่า ผู้ป่วยเคยไปเที่ยวซอยบางลามาหรือไม่ จึงได้ทำการซักประวัติ ทราบว่าไปเที่ยวในพื้นที่ซอยบางลา ป่าตอง อยู่ 2 สัปดาห์ และได้เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย จึงเข้าใจได้ว่าน่าจะมีความเสี่ยง จึงได้ทำการเจาะตรวจหาเชื้อโควิด-19 ปรากฏว่าผลออกมาเป็นบวก

หลังจากนั้นผู้ป่วยเริ่มมีอาการไข้สูง หายใจลำบากขึ้น จนกระทั่งถึงวันที่ 2 เม.ย. ผู้ป่วยเริ่มมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดและวันที่ 3 เม.ย. คนไข้เริ่มหยุดหายใจ เวลา 02.40 น.และแพทย์ไม่สามารถกู้ชีวิตไว้ได้ สรุปสาเหตุนักท่องเที่ยวรายนี้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนบาดเจ็บจากกระดูกสันหลังต้นคอหักร่วมด้วยโรคปอดอักเสบจากติดเชื้อโควิด-19

"การเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวฮังการีเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจ เพราะไม่ได้แจ้งประวัติความเสี่ยงของโควิด-19 ตั้งแต่แรก ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ที่เข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่ กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เข้าไปสัมผัสตัวจำนวน 112 คน แยกเป็นกลุ่ม มีความเสี่ยงต่ำ 8 คน ส่วนที่มีความเสี่ยงสูง 104 คน ในจำนวน 104 คน ให้พักกักตัวรอดูอาการเป็นเวลา 14 วัน อยู่ที่สถานกักตัวที่ทางจังหวัดกำหนดให้เป็นสถานที่กักตัว และส่วนหนึ่งได้กักตัวเองอยู่ที่บ้าน ผลการตรวจทางการแพทย์พบว่า 94 คนผลเป็นลบ รอผลการตรวจอีก 18 คน

นพ.เฉลิมพงษ์ กล่าวว่า ขอใหัประชาชนและนักท่องเที่ยวถ้ารายใดมีประวัติชัดเจน ขออย่าได้ปิดบังข้อมูล ดังเช่นกรณีรายนี้ ทำให้เสียกำลังบุคลากรทางการแพทย์เป็น 100 คน