posttoday

หนีเสือกลางป่าทุ่งใหญ่ชาวกระเหรี่ยงสอนลูกหลานไว้ให้ปีนขึ้นต้นไผ่

14 พฤษภาคม 2562

กาญจนบุรี-สาวกะเหรี่ยงควบคุมสติดีขณะเผชิญหน้าเสือโคร่งกลางป่าทุ่งใหญ่ปีนขึ้นต้นไผ่หนีเอาตัวรอดแถมหยิบมือถือบันทึกภาพสัตว์ร้ายกำลังนอนรอเหยื่อ

กาญจนบุรี-สาวกะเหรี่ยงควบคุมสติดีขณะเผชิญหน้าเสือโคร่งกลางป่าทุ่งใหญ่ปีนขึ้นต้นไผ่หนีเอาตัวรอดแถมหยิบมือถือบันทึกภาพสัตว์ร้ายกำลังนอนรอเหยื่อ

เฟซบุ๊ก book Za Sooksun ครูสาวของโรงเรียนบ้านหินตั้ง ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โพสต์คลิปที่ถ่ายโดยหญิงสาวชาวกะเหรี่ยงบ้านจะแกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านสุดท้ายของอำเภอสังขละบุรี ที่ตั้งอยู่กลางป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เขตติดต่อ ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ขณะหนีเสือด้วยการปีนขึ้นไปหลบอยู่บนกอไผ่กับสามี

เหตุการณ์ในคลิปวีดีโอมีความยาวกว่า 30 นาทีภรรยาและสามีขับรถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้านบนเส้นทางลำลองกลางป่าทุ่งใหญ่ และเป็นเส้นทางเดินของสัตว์ป่านานาชนิดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร รวมทั้งเสือ และอาจเป็นความบังเอิญที่สองสามีภรรยา มาพบเสือขณะกำลังขับมอเตอร์ไซด์กลับบ้าน จนต้องทิ้งกระเป๋าและมอเตอร์ไซด์ ก่อนปีนต้นไผ่ที่อยู่ข้างทางเพื่อเอาชีวิตรอด

จากภาพและเสียงที่ถ่ายโดยหญิงสาวผู้เป็นภรรยาที่ปีนขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าสามี นอกจากการบันทึกภาพแล้วยังทำหน้าที่คอยบอกพฤติกรรมของเสือ เช่นเสือกำลังนอน นั่ง ออกเดิน และกำลังจ้องมองมาที่กอไผ่ที่ตนเองและสามีอยู่ ระยะห่างที่เสืออยู่ บางครั้งแสดงที่พูดแสดงออกถึงความกลัว โดยมีบางช่วงบางตอนที่เธอเอ่ยรำพังรำพันกับเสือเป็นภาษากะเหรี่ยงที่แปลได้ว่า

"ตาจ๋า ยายจ๋า จะไปไหนก็ไปเถอะหนา อย่ามาคิดร้ายต่อกันเลย ต่างคนต่างไป เราทั้งสองคนก็มีธุระต้องกลับบ้าน อย่ามาแกล้งกันอย่างนี้เลย"

บางจังหวะที่เสือเดินเข้ามาใกล้ฝ่ายก็พยายามเรียกสามีที่อยู่ด้านล่างให้ปีนมาอยู่ใกล้ๆ พร้อมตำหนิสามีที่เลือกปีนไผ่ต้นเดียวกับตนเอง เนื่องจากเกรงว่าไผ่จะหักโค่น ส่วนไผ่ที่สองสามีภรรยา เลือกปีนโชคดีที่เป็นไผ่นวล ที่มีแขนงทำให้ง่ายต่อการปีนป่าย ที่สำคัญไผ่นวลมีลำต้นที่ใหญ่ และเนื้อไผ่มีความแข็ง

ส่วนผู้เป็นสามีจากภาพที่บันทึกได้ ไม่ได้กลัวเสือตัวนี้มากนัก บางครั้งยังมีการพูดหยอกล้อภรรยา ซึ่งช่วยให้ผ่อนคลายในบางช่วง จนเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที เสือตัวนี้ได้ขยับตัวและเดินจากไปไกลออกไปจึงตัดสินใจลงจากกอไผ่ พร้อมชวนให้ภรรยาลงมา แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยเธอยังทำหน้าที่คอยดูเสือและบอกสามีเป็นระยะๆ

มีช่วงหนึ่งที่ฝ่ายภรรยาบอกว่าดูเหมือนเสือจะหลับ สามีบอกให้ลงมาแล้วเราจะขับมอไซด์ด้วยความเร็วผ่านเสือเพื่อกลับบ้านกัน แต่เธอปฏิเสธ พร้อมพูดว่าถ้าเสืออยู่จนเช้า เธอก็ยืนยันที่จะอยู่บนกอไผ่จนเช้าเช่นกัน ก่อนจะถามสามีว่าถ้าเราจะย้อนกับไปหน่วยฯ (หน่วยพิทักษ์ป่า) ไกลไหม สามีตอบว่าไม่ไกล ก่อนจะมีการยุติการบันทึกภาพ

จากภาพและการสนทนา มีความเป็นไปได้ที่เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเกิดขึ้นบนเส้นทางจากหน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง-หน่วยมหารราช-ห้วยดงวี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบรอยเท้าสัตว์ป่ามากที่สุด และชายที่เป็นสามีอาจเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่มีความคุ้นเคยกับสถานที่และสัตว์ป่า รวมทั้งเสือ ซึ่งการที่เขาสามารถบันทึกภาพเสือได้ในช่วงเวลากลางวัน เผยให้เห็นพฤติกรรมของเสือในอิริยาบถต่างๆ ซึ่งน่าจะเป็นการบันทึกภาพเสือที่นานที่สุด โดยบุคคลที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่และไม่ใช่นักวิชาการ

โลกออนไลน์ที่มีคำถามว่าการหนีเสือโดยการขึ้นต้นไผ่ใช้ได้ผลจริงหรือ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าใช้ได้ผล แต่สำหรับชาวกะเหรี่ยง นี่คือการหนีเอาตัวรอดจากเสือ ที่ได้รับการสอนมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก

สำหรับสถานที่เกิดเหตุเป็นโซนเดียวกันกับที่ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก นำกำลังเข้าจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เหตุเกิดระหว่างวันที่ 4-6 ก.พ. 2561