posttoday

สลด!ลูกทรพีใช้อีโต้ฟันพ่อดับคาบ้านก่อนนั่งเล่นเกมส์หน้าตาเฉย

19 มกราคม 2562

ตำรวจรวบ ลูกทรพีฆ่าพ่อตายคาบ้าน เสร็จแล้วยังนั่งเล่นเกมส์หน้าตาเฉย สารภาพ โกรธที่พ่อเอาน้ำมาพรมใส่หน้าเรียกมากินข้าว จึงตัดสินใจวิ่งไปในห้องครัวหยิบมีดอีโต้กระหน่ำฟันพ่อต่อหน้าต่อตาน้องชายและน้องสาว

ตำรวจรวบ ลูกทรพีฆ่าพ่อตายคาบ้าน เสร็จแล้วยังนั่งเล่นเกมส์หน้าตาเฉย สารภาพ โกรธที่พ่อเอาน้ำมาพรมใส่หน้าเรียกมากินข้าว จึงตัดสินใจวิ่งไปในห้องครัวหยิบมีดอีโต้กระหน่ำฟันพ่อต่อหน้าต่อตาน้องชายและน้องสาว

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 19 ม.ค. ที่ สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.น้ำพอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเพชร นารี ผกก. (สอบสวน) สภ.น้ำพอง และ พ.ต.ท.อภินันท์ รักศิลป์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.น้ำพอง ร่วม สอบปากคำ นายอนุพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล)  ผู้ต้องหาที่ฆ่าพ่อตัวเองตายคาบ้าน โดยผู้ต้องหานั่งให้การด้วยหน้าตาที่นิ่งเฉย ยิ้มแสยะ ไม่มีท่าทีที่สลดแต่อย่างใด

พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวว่าเหตุการณ์ดังล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา ประมาณ  10.00 น.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง ได้รับแจ้งเหตุลูกฆ่าพ่อที่บ้านเลขที่ดังกล่าว หลังรับแจ้งจึงไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพ นายอาคม(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี   ถูกทำร้ายด้วยของมีคม ที่บริเวณศรีษะ ใบหน้าจนเละ นอนตายอยู่กลางห้องโถงของบ้าน ข้างศพพบมีดอีโต้ยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ข้างศพผู้ตาย  ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายอนุพงษ์ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของผู้ตาย หลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีโดยนั่งเล่นเกมส์อยู่บนที่นอน ใกล้ศพพ่อตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวน ที่ สภ.น้ำพอง

" ตำรวจได้สอบสวนน้องชายของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญที่เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ขณะนอนหลับอยู่บนที่นอนที่อยู่บริเวณห้องโถงของบ้าน พ่อก็มาปลุกให้ลูกๆไปกินข้าว จึงลุกไปล้างหน้า พอกลับออกจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงพ่อบ่นให้พี่ชาย พร้อมกับเอาน้ำใส่แก้วไปพรมใส่หน้าพี่ชายที่นอนอยู่บนที่นอน พี่ชายโมโหและมีอาการฉุนเฉียวทะเลาะกับพ่อ และเดินไปหลังบ้าน เอามีดมาฟันที่ศรีษะพ่อจนล้มลงกับพื้น และฟันซ้ำอีกหลายครั้ง จึงเกิดความกลัวพาน้องสาววิ่งหนีออกนอกบ้านไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน แต่เมื่อเพื่อนบ้านไปถึงบ้าน ปรากฏว่า พ่อได้เสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว"

พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยได้ทำการควบคุมตัวนายอนุพงษ์ผู้ก่อเหตุ มาสอบสวน โดยไม่มีทีท่าสะทกสะท้านหรือเกรงกลัวความผิด แต่กลับมีใบหน้าเรียบเฉย แสยะยิ้มเป็นบางครั้ง  พูดคุยรู้เรื่อง ตลอดเวลา โดยหลังก่อเหตุไม่ได้หนีไปไหนคงนั่งเล่นเกมส์อย่างไม่สะทกสะท้าน โดยนายอนุพงษ์ให้การรับสารพภาพว่า ที่ก่อเหตุดังกล่าวเพราะถูกพ่อบ่นด่าทุกวัน เก็บกดสะสมมานาน เมื่อพ่อเอาน้ำมาพรมหน้าจึงเกิดความโมโห จึงเดินเข้าไปในครัวใช้มีดฟันคอพ่อจนตายคาที่และนั่งเล่นเกมส์รอมอบตัว ซึ่งภายหลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าบุพการี โดยที่ผู้ต้องหาไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหาแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบนางจุฑาทิพย์  อายุ 40 ปี ภรรยาผู้ตายและเป็นมารดาของนายอนุพงษ์  พร้อมเพื่อนบ้านได้ช่วยกันจัดสถานที่ภายในบริเวณบ้านเพื่อตั้งสวดอภิธรรมศพผู้ตายท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า 

นางจุฑาทิพย์ กล่าวว่า ที่บ้านอาศัยอยู่กันทั้งหมด 5 คน นายอนุพงษ์ซึ่งเป็นลูกชายคนโตไม่ได้ทำงาน เพราะร่างกายและสมองไม่ปกติหลังจากประสบอุบัติเหตุเมื่อปี 2560 ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุ ตนเองทำกับข้าวให้สามีกับลูกไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อถึงที่ทำงานก็มีเพื่อนบ้านโทรศัพท์แจ้งว่า ลูกชายฆ่าพ่อตายในบ้าน จึงรีบกลับบ้านก็พบศพสามีนอนอยู่กลางห้องโถง ส่วนนายอนุพงษ์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ จึงถามลูกชายว่า ฆ่าพ่อทำไม ลูกชายตอบเพียงว่า ดุด่าทุกวันไม่ชอบ

"นายอนุพงษ์เป็นคนที่มีร่างกายไม่แข็งแรง ช่วงเรียนหนังสือระดับประถม ถึงระดับมัธยม ก็ถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง จนทนไม่ได้ออกจากโรงเรียนในช่วงที่กำลังเรียน ม.4 จากนั้นช่วงอายุ 16-17ปี นายท็อปก็ติดเพื่อน เสพยาเสพติด และไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด กลับมาอยู่บ้านเมื่อปี 2560 ก็ประสบอุบัติจนขาหักสองท่อน ผ่าตัดสมอง รักษาตัวนานหลายเดือน เมื่อแข็งแรงก็กลับมาอยู่บ้าน เก็บตัวไม่ออกจากบ้าน วันๆเล่นแต่เกมส์ไม่ค่อยกินข้าว กินเพียงวันละมื้อ  ชอบนอนตื่นสายและสูบบุหรี่จัดมวนต่อมวน มีบ้างที่พ่อดุและบ่น เพราะอยากให้ลูกมีความเข้มแข็ง ซึ่งก่อนจะฆ่าพ่อตัวเอง พ่อมาเรียกท็อปไปกินข้าว แต่นายท็อปไม่ลุกจากที่นอน ยังคงนอนเล่นเกมส์อยู่ พ่อจึงเอาน้ำไปพรมหน้า ลูกจึงทำร้ายพ่อ และเชื่อว่าสาเหตุที่ลูกชายลงมือฆ่าพ่อตัวเองมาจากความเครียดและความกดดันที่สะสมมานานจึงบันดาลโทสะฆ่าพ่อตัวเองตายในบ้านดังกล่าว"