posttoday

รพ.น้อมรับผิดทำเด็กป่วยท้องเสียตาย-ญาติแฉซ้ำโรงพักไม่รับแจ้งความ

05 พฤษภาคม 2561

สระแก้ว-ผอ.รพ.ยอมรับระบบการสื่้อสารผิดพลาดทำเด็กท้องเสียรอนานจนเสียชีวิต ขณะที่นายแพทย์สสจ.สั่งตรวจสอบเจ้าหน้าที่บอก"ห้องฉุกเฉินปิดทำการ"

สระแก้ว-ผอ.รพ.ยอมรับระบบการสื่้อสารผิดพลาดทำเด็กท้องเสียรอนานจนเสียชีวิต ขณะที่นายแพทย์สสจ.สั่งตรวจสอบเจ้าหน้าที่บอก"ห้องฉุกเฉินปิดทำการ"

เมื่อวันที่ 5 พ.ค.61 เวลา 15.00น. นายแพทย์ ภูวดล กิตติวัฒนสาร ผอ.โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จ.สระแก้ว แถลงข่าวกรณีเด็กหญิงญาณิศา ทัดละมัย อายุ 1 ขวบ 6 เดือน เสียชีวิตระหว่างมารดาพามาตรวจที่ห้องฉุกเฉิน หลังเกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง ว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค.61 เวลา 14.00 น. ด.ญ.ญาณิศามาตรวจด้วยอาการไข้สูง หนาวสั่น อาเจียนและถ่ายท้อง ตรวจพบไข่ 40 องศาชีพจร 110 ครั้งต่อนาที เด็กรู้สึกตัวและตื่นดี แพทย์วินิจฉัยว่า ลำไส้อักเสบ ให้การดูแลรักษาโดยการให้ยา ลดไข้ ยาแก้อาเจียน และเกลือแร่ ไปรับประทาน พร้อมเช็ดตัวลดไข้ให้จนอาการดีขึ้น ให้คำแนะนำและให้กลับไปรักษาต่อที่บ้าน

ต่อมาเมื่อวันที่ 4 พ.ค.61 เวลาประมาณ 06.13 น. มารดาผู้ป่วยมาที่ห้องฉุกเฉินแล้วพบพนักงานที่หน้าห้องฉุกเฉินได้พูดคุยกับมารดาทำให้เข้าใจว่าห้องฉุกเฉินปิดบริการ และเปิดบริการอีกครั้งเวลา 07.00 น. มารดาจึงอุ้มลูกไปรับบริการ ที่ตึกผู้ป่วยข้างนอก จากนั้นเวลา 07.02 น. มารดาเห็นว่า ลูกไม่ดีขึ้น จึงพามาตรวจที่ห้องฉุกเฉิน พบว่าเด็กตัวเขียว ชีพจรเบา ตัวลาย และมีภาวะขาดน้ำมาก แพทย์และเจ้าหน้าที่ทำการช่วยเหลือโดยให้น้ำเกลือและยาปฏิชีวนะและใส่ท่อช่วยหายใจ หลังใส่ท่อเด็กมีอาการหัวใจหยุดเต้น และช่วยฟื้นคืนชีพ ซึ่งฟื้นมาเป็นช่วงๆ ทำการช่วยฟื้นคืนชีพทั้งหมด 3 ครั้ง ตั้งแต่เวลา 07.35-08.57 น. และเสียชีวิต เวลา 09.35 น.
           
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางโรงพยาบาลรู้สึกเสียใจอย่างมากและน้อมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะนำข้อผิดพลาดดังกล่าวมาแก้ไข เพื่อให้เกิดการพัฒนา ไปในทางที่ดีขึ้น และประชาชนปลอดภัยจากการมารับบริการ จากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สระแก้วต่อไป

รพ.น้อมรับผิดทำเด็กป่วยท้องเสียตาย-ญาติแฉซ้ำโรงพักไม่รับแจ้งความ พ่อแม่และญาติของผู้ตาย

นอกจากนี้ ด้วยเกียรติของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ของเรามีภาระคนไข้ตอนนี้ประมาณ 400 รายต่อวัน สำหรับผู้ที่มารักษา หากพบมีไข้สูง และมีการรักษาเบื้องต้นแล้ว อาการไข้ลง ดีขึ้น หมออาจคิดว่า ดีขึ้นบ้างแล้ว อาจจะแนะนำให้กลับไปดูอาการที่บ้าน แต่รายใดที่แพทย์เฉพาะทาง ส่วนหนึ่งก็ดูอาการ และภาระหนึ่งถ้าเอาเข้าตึกมาก ๆก็จะล้นจนเกินไป ถ้าเราให้นอนทุกราย ในส่วนนี้แพทย์ที่ให้การรักษาบอกว่า พอเช็ดตัวเช็ดอะไรก็ดีขึ้น ก็ให้ยากลับไปทานก่อน ถ้าไม่ดีขึ้นก็จะนำมา ตอนกลับมาหาหมอใหม่ อาจเป็นไปได้ว่ามีการสื่อสารหรือระบบเรายังไม่ดีพอ อาจเป็นความเข้าใจผิดกัน เวรที่อยู่ห้องบัตรฉุกเฉินไม่ได้ปิด มีพยาบาลอยู่ตลอด พอดีตอนเช้าจะมีผู้ป่วยมารอรับที่ห้องผู้ป่วยนอก ส่วนที่ห้องบัตร ผู้ป่วยนอกอยู่เวรดึกอยู่คนหนึ่ง ในช่วง 6 โมงถึง 7 โมงห้องบัตรที่อยู่ด้านนี้ ก็จะช่วยในการแจกคิวทำบัตร ฝั่งด้านผู้ป่วย โอพีดี แต่จริงๆแล้วโดยทั่วไปเวลาผู้ป่วยมา ผู้ป่วยสามารถเข้าห้องฉุกเฉินไปเลย เรื่องทำบัตรจะตามมาทีหลัง อาจเป็นเรื่องของระบบของเราหรือการสื่อสาร เกิดคลาดเคลื่อน

ด้าน นายแพทย์ อภิรัต กตัญญุตานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า สำหรับ เจ้าหน้าที่ที่บอกว่าห้องฉุกเฉินปิดจะมีการสอบข้อเท็จจริง ถ้าพบว่ามีความผิด เราจะลงโทษตามระเบียบราชการ ทางผู้ว่าฯราชการจังหวัดสระแก้ว ทราบข่าวำด้ย้ำก็เป็นห่วง ขอให้ช่วยสอบข้อเท็จจริงถ้าพบว่า ถ้าผิดก็ให้ดำเนินการตามระเบียบราชการส่วนการเยียวยา เข้าข่ายมาตรา 41 ด้วยจะช่วยเร่งรัดให้ เร็วที่สุด

อีกประเด็นระบบทางโรงพยาบาล เมื่อเกิดความผิดพลาด หรือว่าเกิดความสูญเสียไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือว่า เราจะต้องมาทบทวน ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วจะดำเนินการอย่างไร เพื่อป้องกันมิให้ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก อันนี้เป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดทุกโรงพยาบาลตอนนี้ก็เราได้ทบทวนในเบื้องต้น เรื่องของการสื่อสาร เรื่องของการคัดกรอง ผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ามา จะทำอย่างไรให้รีบเข้าห้องฉุกเฉินได้รวดเร็ว คือประเด็นที่จะต้องรีบทบทวน

จ.ส.อ.มารุต คุณมี อายุ 44 ปี ผู้เป็นลุงของผู้ตาย ที่เป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก Marut Khunmee กล่าวว่า เด็กเสียชีวิตเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ดูแลคนไข้อ้างว่าห้องฉุกเฉิดปิดทำการ ไม่คาดคิดว่าโรงพยาบาลขนาดใหญ่จะเป็นได้เช่นนี้โรงพยาบาลได้ขอไกล่เกลี่ยกับกับพ่อแม่ของน้องอย่าให้เป็นข่าวเพราะกลัวเกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง ขณะที่ทางญาติได้ไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก ทางโรงพักก็ยอมไม่รับแจ้ง หมายความอย่างไร สำหรับศพของน้องจะเก็บไว้ จนกว่าจะได้รับการเยียวยา ซึ่งทางโรงพยาบาล พูดเพียง จะดำเนินการตามมาตรา 41 เท่านั้น แต่ไม่ยอมพูดถึงจำนวนเงินที่เยียวยาแม้นักข่าวจะสอบถามก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน.