posttoday

ตำรวจแฉทีมฆ่าฝังสามเณรจับอดีตเจ้าอาวาสขังนาน2ปี

02 มิถุนายน 2560

นครศรีธรรมราช-ตำรวจแฉเด่นชัย-ปิยฉัตรเป็นผู้จัดการผลประโยชน์วัดสถานที่ฆ่าฝังสามเณรแถมจับอดีตเจ้าอาวาสถูกขังในกุฏินานกว่า2ปีไม่เคยรู้เรื่องการเงิน

นครศรีธรรมราช-ตำรวจแฉเด่นชัย-ปิยฉัตรเป็นผู้จัดการผลประโยชน์วัดสถานที่ฆ่าฝังสามเณรแถมจับอดีตเจ้าอาวาสถูกขังในกุฏินานกว่า2ปีไม่เคยรู้เรื่องการเงิน

พลตำรวจโทเทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และพล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช แถลงหลังขุดร่างมนุษย์ซึ่งคาดว่าจะเป็นสามเณรปลื้ม หรือสามเณรศุภโชค เอกเกียรติกุลที่วัดวังตะวันตก อ.เมืองนครศรีธรรมราช ว่า ศพได้ถูกส่งไปที่ศูนย์นิติเวช จ.สุราษฎร์ธานีเพื่อทำการชันสูตรการตายอย่างละเอียดรวมทั้งพิสูจน์ดีเอ็นเอเพื่อความชัด

"คดีนี้อาจมีผู้ต้องหาเพิ่มอีกรวมเกือบ 10 คนทั้งคนขุด คนจัดหาปูน คนผสมปูนที่ช่วยกันปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ ส่วนแหล่งผลประโยชน์ของวัดที่กลุ่มผู้ต้องหาครอบครองจัดการอยู่นั้นมีทั้งรายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ของวัดมูลค่าหลายร้อยล้านบาท เงินสดที่ไหลเข้าวัดทุกวันวันละไม่น้อยกว่า 15,000 บาท ทั้งจากการเก็บค่าแผงค้ารายวัน ค่าจอดรถรายวัน และอื่นๆอีกหลายรายการ"พลตำรวจโทเทศา กล่าว

พลตำรวจโทเทศา วัดแห่งนี้มีผลประโยชน์มหาศาล กลุ่มผู้ต้องหาทั้งสามีภรรยาคือนายเด่นชัย ภูมินิยม หรือพระเด่นชัย และนางสาวปิยฉัตร อรุณสกุล ล้วนครอบงำได้ทั้งหมด แม้แต่เจ้าอาวาสก็ถูกขังไว้ไม่สามารถทำอะไรได้ กรรมการวัดก็ไม่มี

"รายได้ทั้งหมดไม่ปรากฏอยู่ในสถานะทางบัญชีของวัดส่วนนางสาวปิยฉัตรเดิมพบว่ามีอาชีพขายน้ำผลไม้ปั่นอยู่บริเวณหลังวัด และภายหลังได้มาบริหารจัดการภายในวัด ทำให้มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นโดยขณะนี้ใช้รถยนต์ราคาแพงอยู่ถึง3คัน"พล.ต.ท.เทศา กล่าว

ขณะที่นายเด่นชัย ภูมินิยม หรืออดีตพระเด่นบอกว่าไม่ได้เจตนาฆ่าสามเณรปลื้มสาเหตุที่ทำร้ายเพราะสามเณรปลื้มได้ขโมยเงินสดกว่า 50,000 บาท และทองรูปพรรณพระเลี่ยมทองหนัก 6 บาทไป จึงพยายามทวงคืนแต่ไม่ได้ผล จึงทำร้ายและเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา

ตำรวจได้เข้าสอบปากคำพระเทพสิริโสภณ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช และอดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตกที่ถูกใส่กุญแจขังไว้ในกุฏิให้การว่า ถูกใส่กุญแจกุฏิล็อคออกไปไหนมาไหนไม่ได้ 2 ปีกว่าแล้ว โดยจะมีคนเอาอาหารมาให้ฉันทุกวัน ไม่เคยรับรู้สถานะการเงินของวัด เนื่องจากอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มผู้ต้องของพระเด่น รวมทั้งทีมผู้ต้องหาที่ร่วมฆาตกรรมสามเณรปลื้มเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น  ส่วนนางสาวปิยฉัตร อรุณสกุล และนายเด่นชัย ภูมินิยม ไม่ได้เป็นญาติกัน เมื่อมีการถามว่าเหตุใดถึงเข้ามาควบคุมวัดได้อย่างเบ็ดเสร็จ พระเทพสิริโสภณ กลับนิ่งเฉย ไม่ยอมพูดต่อ.