นักธุรกิจสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคม ความร่ำรวยแค่ผลพลอยได้
"ความร่ำรวยจากธุรกิจคือผล พลอยได้ แต่ผลลัพธ์คือน้ำใจจากผู้ร่วมสังคมได้แบ่งปันแก่กัน"
โดย...อักษรา ปิ่นนราสกุล
จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก หรือชีวิตเกษตรบ้านกร่าง มาสู่มหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ด้านสิ่งแวดล้อม หลายฝ่ายแทบจะคาดเดาได้เลยว่าจบออกมาแล้วต้องเป็นข้าราชการ ตามคำสอนและความคาดหวังของพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ที่หวังให้เป็น “เจ้าคนนายคน” แต่ทว่า “โกวิท ไชยเมือง” ชายหนุ่มวัย 43 ปี สายเลือดตระกูล “ไชยเมือง” ตระกูลเก่าแก่ของพะเยา ผันชีวิตออกนอกกรอบมาทำงานภาคประชาสังคม หรือเอ็นจีโอด้านสิ่งแวดล้อม และ “นักวิชาการท้องถิ่น” ก่อนก้าวมาเป็น “นักธุรกิจสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคม”
วันนี้ของโกวิท เขาเป็นเจ้าของธุรกิจรับซื้อของเก่า หรือรับซื้อขยะ แต่วิธีการของเขาคือการใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาและการทำงานด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ออกไปเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษให้แก่น้องๆ นักเรียนทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต่างๆ เกี่ยวกับการคัดแยกขยะ เพื่อลดปัญหาเรื่องขยะ และสร้างรายได้เสริม
ธุรกิจรับซื้อของเก่าแฟรนไชส์วงษ์พาณิชย์ของเขา ตั้งจุดบริการสังคมที่ ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา รับซื้อของเก่าในพื้นที่ อ.เชียงคำ ภูซาง ปง และพื้นที่ซึ่งสามารถนำมาส่งให้ได้ รายได้อยู่ในระดับ 7 หลัก
“ขยะทั้งหมดแบ่งเป็นขยะรีไซเคิล นำไปทำปุ๋ย นำกลับไปใช้ใหม่ได้ถึง 80% เหลือขยะที่ไม่สามารถทำลายหรือย่อยสลายได้จริงๆ ประมาณ 20% เท่านั้น”
โกวิทบอกกล่าวเล่าขานถึงการก่อเกิดธุรกิจรับซื้อของเก่าว่า มีโอกาสได้รู้จัก สมไทย วงษ์เจริญ เจ้าของกิจการวงษ์พาณิชย์ ธุรกิจรีไซเคิลรายใหญ่ของประเทศ ทำให้ได้รับความรู้และคุณค่าของขยะ และตอบโจทย์ในเรื่องการลดปัญหาขยะและปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างดี จึงศึกษาเรื่องการดำเนินธุรกิจของเก่าอย่างจริงจัง และเริ่มธุรกิจรับซื้อของเก่าโดยเป็นแฟรนไชส์วงษ์พาณิชย์ เมื่อปี 2550
โกวิทบอกว่า แรงบันดาลใจที่สำคัญทำให้อยากทำงานด้านสิ่งแวดล้อม เพราะต้องการทำเพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและจัดการขยะอย่างเป็นระบบ ซึ่งขยะทุกชนิดสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์หรือรีไซเคิลได้ นอกจากจะช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถทำให้เกิดรายได้และที่สำคัญสังคมน่าอยู่มากขึ้น ซึ่งทำให้เขาอุทิศตัวเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ชาวบ้านชุมชนในการคัดแยกขยะ เพื่อแปรมาเป็นรายได้ และลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชน
โกวิทขับรถยกช่วยทำงานด้วยตัวเอง
อีกบทบาทหนึ่ง โกวิทมีตำแหน่งเป็นนายกสโมสรโรตารีเชียงคำ 3360 ซึ่งทำให้เขาและเพื่อนนักธุรกิจรุ่นใหม่ของเมืองพะเยา รวมกันเป็นกลุ่มฮักบ้านเกิด ทำกิจกรรมเพื่อสังคม
“กิจกรรมของกลุ่ม เช่น การเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง เยี่ยมผู้ประสบภัยธรรมชาติ เช่น พายุลูกเห็บ ไฟไหม้บ้าน น้ำท่วม โคลนถล่ม ภัยหนาว เราจะไม่รีรอ สิ่งที่เราพอมีและพร้อมให้เราจะดำเนินการทันที ใครทันก็ไปก่อนที่เหลือก็ตามทีหลัง ไม่ว่าจะเป็นเงิน ผ้าห่มกันหนาว เสื้อผ้า เครื่องใช้ที่จำเป็น ปัจจัยสี่ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีพ หรือนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์”
ในความเป็นนักธุรกิจนั้น โกวิทบอกว่า ธุรกิจย่อมต้องการผลกำไร แต่ส่วนที่จะคืนหรือตอบแทนแก่สังคมคือสิ่งที่คิดและทำทันทีเมื่อมีโอกาส
“เราทุกคนในกลุ่มมีแนวคิดและจุดมุ่งหมายที่เหมือนกัน คือ ‘เพื่อบ้านเกิด’ เนื่องจากต่างมีประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกัน คือ ความลำบากเมื่อครั้งเป็นเด็ก เมื่อเราพอมีส่วนที่สามารถแบ่งปันให้แก่ผู้อื่นได้ เราจึงไม่ลังเลที่จะหยิบยื่นแบ่งปัน สิ่งที่พวกเราสัมผัสพวกเรารู้ว่า ‘น้ำใจ’ ที่ได้รับจากผู้ที่หยิบยื่นมันอบอุ่นและเป็นสุขเพียงใด มันอาจจะตอบโจทย์ในใจของผมและของใครอีกหลายคนที่มีประสบการณ์ของการขาดเมื่อครั้งเป็นเด็ก และเติมเต็มเมื่อเรามีโอกาสเติมเต็มให้แก่ผู้อื่น”
“ความร่ำรวยจากธุรกิจคือผล พลอยได้ แต่ผลลัพธ์คือน้ำใจจากผู้ร่วมสังคมได้แบ่งปันแก่กัน” โกวิทกล่าวย้ำถึงความตั้งใจของเขา