ผกก.พัทยาเผยรู้ตัวคนซื้อตั๋วเครื่องบินมาเลย์

ชลบุรี-ผกก.พัทยา เผยรู้ตัวนายหน้าคนติดต่อซื้อตั๋วเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 แล้ว เป็นชาวอิหร่านเคยพักในประเทศไทย

พ.ต.อ.ศุภชัย ผุยแก้วคำ ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กล่าวว่า ได้ตรวจสอบเส้นทางของการซื้อตั๋วเครื่องบินของชาวต่างชาติที่ใช้พาสปอร์ตที่หายไปจากจังหวัดภูเก็ตของนายลุยจิ มาราลดี้ ชาวอิตาลี และนายคริสเตียน โคเซล ชาวออสเตรีย  พบว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา นายอารีร์ซา โคลโมฮาล มาดิ  อายุ 39 ปี สัญชาติอิหร่าน ได้โทรศัพท์สั่งซื้อตั๋วเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 จำนวน 2 ใบ โดยมีปลายทางที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี และเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก จาก บริษัท แกรนด์ ฮอไรชั่น ทราเวล จำกัด
 
ทั้งนี้ บริษัท แกรนด์ฯ ซึ่งเป็นเพียงบริษัทซัพเอเย่นต์ ได้ส่งข้อมูล และสั่งซื้อตั๋วผ่านบริษัท ซิกซ์สตาร์ ทราเวล อีกต่อหนึ่ง แต่ภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวันรับตั๋วเป็นวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา นายอารีร์ซา ได้ให้ นายฮัสแซม ซาฮาบ การานี โกเลสตานี อายุ 51 ปี เพื่อนชาติเดียวกัน ซึ่งทำธุรกิจเปิดร้านทำกรอบรูปในเมืองพัทยา เป็นคนนำเงินค่าตั๋วเครื่องบินจำนวน 51,000 บาท มาจ่ายให้บริษัท แกรนด์ฯ จากนั้นบริษัท ซิกซ์สตาร์ฯ จึงส่งตั๋วเครื่องบินไปให้ทางอินเทอร์เน็ต หรือ อีบุ๊คกิ้ง ซึ่งคนสั่งซื้อไม่ได้มารับตั๋วด้วยตัวเอง

พ.ต.อ.ศุภชัย กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติ นายอารีร์ซา เดินทางเข้ามาประเทศไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2555 และแจ้งข้อมูลการเข้าพักไว้ที่ รอยัลไทย เรสซิเดนท์ ถ.เทพประสิทธิ์ 7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ล่าสุดเดินทางออกจากประเทศไปยังกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2556 ซึ่งในระหว่างที่อยู่ประเทศไทย นายอาร์รีซา มีความคุ้นเคยกับบริษัท แกรนด์ฯ เพราะสั่งซื้อตั๋วเครื่องบินจากบริษัทดังกล่าวเป็นประจำ

ส่วนนายฮัสแซม ซึ่งเป็นผู้ไปจ่ายเงินค่าตั๋วเครื่องบินนั้น ปัจจุบันประกอบอาชีพเปิดร้านรับทำกรอบรูปอยู่ในเมืองพัทยาประมาณ 7 ปี และมีความคุ้นเคยกับนายอารีร์ซา เป็นอย่างดี เบื้องต้น ตำรวจได้เรียก นายฮัสแซม มาสอบปากคำแล้วแต่ไม่พบพิรุธ จึงได้ปล่อยตัวไปชั่วคราว แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อนายอารีร์ซา ได้ ส่วนรายละเอียดข้อมูลเชิงลึกยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเกรงจะเสียรูปคดี