posttoday

ธรรมกายขอโฉนด85ไร่เกาะดอนสวรรค์สกลนคร

06 กันยายน 2555

สะพัดโลกออนไลน์ "ธรรมกาย" ขอออกโฉนดที่ดิน 85 ไร่ บนเกาะดอนสวรรค์ สกลนครเป็นธรณีสงฆ์ เทศบาลห่วงปัญหาสิ่งแวดล้อม

สะพัดโลกออนไลน์ "ธรรมกาย" ขอออกโฉนดที่ดิน 85 ไร่ บนเกาะดอนสวรรค์ สกลนครเป็นธรณีสงฆ์ เทศบาลห่วงปัญหาสิ่งแวดล้อม

ธรรมกายขอโฉนด85ไร่เกาะดอนสวรรค์สกลนคร บึงหนองหาร / ขอบคุณภาพจากคุณ sopon thongsom

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.กลุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊กได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กรณีเกาะดอนสวรรค์ ในบึงหนองหาร จ.สกลนคร กำลังถูกขอออกโฉนดจำนวน 85 ไร่ให้เป็นที่ธรณีสงฆ์และครอบครองโดยวัดพระธรรมกาย รวมทั้งมีรายงานว่าในบริเวณดังกล่าวมีป้ายกระกาศแจ้งว่า กำลังดำเนินการออกโฉนดให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ หากใครมีความประสงค์จะคัดค้าน ขอให้ยื่นภายในวันที่ 6 ก.ย.นี้ หากไม่มีผู้คัดค้าน จะดำเนินการออกโฉนดให้ภายในวันที่ 9 ก.ย.   

นายวิบูลย์ แต้ศิริเวชช์ รองนายกเทศบาลนครสกลนคร กล่าวว่า เกาะดอนสวรรค์เป็นเกาะที่อยู่กลางน้ำหนองหารอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 4 กิโลเมตร และอยู่ติดกับพื้นที่เทศบาลนครสกลนคร กรณีการปลูกสร้างถาวรวัตถุ และมีพระเข้ามาจำพรรษานั้น หลายคนมองว่า ดังกล่าว อาจจะทำให้ทัศนียภาพของหนองหารลดลง อยากให้เป็นธรรมชาติ มากกว่ามีสิ่งปลูกสร้าง

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ มีการขอขึ้นทะเบียน เป็นวัดดอนสวรรค์ ต่อมา มีพระเข้าไปอยู่ และกลายเป็นวัดร้าง มาระยะเวลาหนึ่ง และมีพระแวะเวียนเข้าไปจำพรรษาบ้าง เป็นบางช่วง ไม่แน่นอน ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วรู้สึกเป็นห่วงเรื่องสิ่งแวดล้อมหากมีการออกโฉนด

ขณะที่ นายประพงศ์ บุตราช รองนายกเทศบาลตำบลเชียงเครือ อ.เมืองสกลนคร กล่าวว่า การที่ทางจังหวัดให้มีการพัฒนาหนองหาร และพัฒนาดอนสวรรค์เป็นแหล่งท่องเที่ยว และวัดดอนสวรรค์ก็มีมานานแล้ว ตนว่า แม้จะออกเป็นโฉนด ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร เพราะการออกให้นั้นเป็นของสงฆ์ แต่ที่ห่วงก็คือเรื่องสิ่งแวดล้อม อาทิ ขยะ และการปล่อยน้ำเสีย ซึ่งเมื่อมอบใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้ว ปัญหาสิ่งแวดล้อมจะต้องช่วยกันด้วย ลำพังพระที่ไปอยู่นั้นไม่น่ามีปัญหา อยู่ที่คนจะเข้าไปเที่ยวแล้วทิ้งขยะปล่อยของเน่าเสียตัวน่าเป็นห่วงมากกว่า อยากให้มาดูแลเรื่องนี้มากกว่า

ด้าน นายไพจิตร กลุตั้งวัฒนา รองประธานหอการค้าจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า การออกโฉนดดอนสวรรค์เพื่อเป็นธรณีสงฆ์นั้นทำได้ตามกฎหมาย แต่ตนมองว่า วันนี้เรากำลังทำอะไรกับหนองหาร วันนี้ หนองหารกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนร่วมกันทำลายมากกว่าคำว่าพัฒนา เพราะบางหน่วยงานมักอ้างเอาหนองหารมาบังหน้าเพื่อหากินกับงบประมาณ เพราะที่ผ่านมาก็มีให้เห็นแล้ว ว่าสิ่งที่สร้างลงไปหนองหารกลายเป็นการช่วยกันรุมโทรมมากกว่า