แล้งขั้นวิกฤต ชาวนาเมืองสองแควเปิดศึกแย่งน้ำ

ภัยแล้งทำพิษ ชาวนาในอ.พรหมพิราม เปิดศึกแย่งน้ำถึงขั้นต้องจัดเวรยามเฝ้าประตูน้ำตลอด24 ชั่วโมง

ชาวนาตำบลศรีภิรมย์กับชาวนา ต.วังวน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เริ่มเปิดศึกแย่งชิงน้ำแล้ว  โดยชาวนากลุ่มตำบลวังวน นำโดย นายไสว เนื้อสีจัน นายก อบต.วังวน  นำชาวนากว่า 30 คน พร้อม ขอกำลัง อส.ตำรวจ มาทำการเปิดประตูน้ำบริเวณหมู่ 10 ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก หลังมีกลุ่มมาเฟียขายน้ำให้ชาวนาไร่ละ 500-700 บาทเสียประโยชน์  แอบลักลอบมาตัดลวดสลิงปิดประตูน้ำ ส่งผลให้ชาวนาพื้นที่ปลายน้ำของตำบลวังวนกว่า 20,000 ไร่ประสบปัญหาขาดน้ำ และมีนาข้าวเสียหายแห้งตายแล้วกว่า 5,000 ไร่

นายไสว เปิดเผยว่า ทาง อบต.วังวน และ อบต.ศรีภิรมย์ มีข้อตกลงการแบ่งน้ำในแม่น้ำลำคลอง โดยให้มีการเปิดประตูน้ำระบายน้ำ 4 วันและปิดประตูน้ำ 4 วัน  เพื่อแบ่งปันการใช้น้ำอย่างทั่วถึง แต่ปรากฏว่าในช่วงที่ทางตำบลวังวน จะใช้น้ำได้มีคนลักลอบตัดสลิงปิดประตูน้ำทุกครั้ง  ครั้งนี้ชาวบ้านวังวนและ อบต.วังวนได้นำลวดสลิงมาทำการเปิดประตูน้ำ  พร้อมจัดเวรยามเฝ้าเพื่อป้องกันการลักลอบตัดลวดสลิงตลอด 24 ชั่วโมง จนครบกำหนด 4 วันตามข้อตกลง  อย่างไรก็ตาม ปัญหาการแย่งชิ่งน้ำในพื้นที่ สองตำบลมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะปีนี้ที่ประสบปัญหาน้ำน้อยและชาวนาปลูกข้าวมากขึ้น 

ขณะที่ ต.ศรีภิรมย์ ก็มีกลุ่มมาเฟียทีได้ประโยชน์จากการปิดประตูน้ำ ได้ดึงน้ำเข้าสู่คลองย่อย แล้วไปเรียกเก็บเงินค่าน้ำจากชาวนาไร่ละ 500-700 บาท ทำให้ชาวนามีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ขณะที่ ต.วังวนในอดีตเคยมีปัญหานี้เช่นกัน  แต่หลังจากเปลี่ยนตนมารับตำแหน่งนายก อบต. ได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวจนหมดไป แต่ก็มาเจอปัญหาการผิดข้อตกลงด้วยการลักลอบตัดลวดสลิงปิดประตูไม่ยอมปล่อยน้ำอีกบ่อยครั้ง ทำให้ต้องใช้มาตรการจัดเวรยามเฝ้าระวัง 

นายจวง ทองโชติ ชาวนา ต.วังวน อ.พรหมพิราม จกล่าวว่า ทำนา 75 ไร่ ขณะนี้ประสบปัญหาขาดน้ำจนข้าวเริ่มแห้งตาย เช่นเดียวกับชาวนาพื้นที่ใกล้เคียงทั้ง หมู่ 3 หมู่ 5 หมู่ 6 หมู่ 7 ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ถ้าในสัปดาห์นี้ไม่ได้น้ำเข้าไปหล่อเลี้ยงนาข้าวจะเสียหายทั้งหมด

นายพยอม ตั้งใจจิตชาวนา ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม  กล่าวว่า ปีนี้ปัญหาน้ำจะรุนแรงงมาก เพราะทางเหนือน้ำปิดประตูน้ำเพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงนาข้าว ซึ่งในส่วนของ หมู่ 10 ได้มีการระดมเงินกันจำนวน 120,000 บาท ซื้อเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบน้ำจากคลองส่งน้ำ ลงสู่คลองย่อย โดยเก็บเงินกับรายละ 300 บาท/ไร่ เป็นค่าน้ำมัน ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือกัน อีกอย่างการจ่ายเงินดังกล่าวไม่มีการบังคับ เราทำกันเอง แต่ที่ผ่านมา มีการซื้อน้ำไร่ละ 600 บาท ซึ่งชาวนาอย่างเราซื้อไม่ไหว ต้องลงทุนสูบน้ำบาดาล แต่ต้นทุนก็สูงมาก ยิงข้าวราคา 7,500 บาท ต่อความชื้น 30 % ก็ยิงเป็นภาระทำให้ชาวนาทำนาแล้วแทบไม่เหลือกำไร