posttoday

เชลล์ชูโมเดล “Trusted Partner” เติมสุขให้ทุกชีวิต พันธกิจเพื่ออนาคต

24 กุมภาพันธ์ 2563

ประธานกรรมการบริษัท เชลล์ประเทศไทย คนใหม่ “ปนันท์ ประจวบเหมาะ” ส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่สังคม เน้นกลยุทธ์ ส่งมอบพลังงานสะอาด เพิ่มประสิทธิภาพ และดีต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์ “เติมสุขให้ทุกชีวิต”

เชลล์ ประเทศไทย ชูทิศทางดำเนินงานแบบ “Trusted Partner” เพื่อสนองตอบความต้องการด้านพลังงานอย่างรับผิดชอบ โดยยึดหลักในการมุ่งสร้างความร่วมมือ ภาครัฐ ชุมชน พันธมิตรธุรกิจ และภาคีทุกภาคส่วน เพื่อนำแนวคิดการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เหมาะสำหรับประเทศไทย มาสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อร่วมสร้างเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

นายปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจว่า บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เป็นหนึ่งในผู้นำด้านพลังงานและน้ำมันเชื้อเพลิงมากว่า 128 ปี ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตเพื่อรองรับความต้องการด้านพลังงานของไทยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสานต่อและมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน บนแนวคิด “Trusted Partner”

เชลล์ตอบโจทย์พันธกิจ “เติมสุขให้ทุกชีวิต” ด้วยการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ให้เป็นพลังงานที่สะอาด เพิ่มประสิทธิภาพ และดีกับสิ่งแวดล้อม สำหรับประเทศไทยแล้ว การส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจ การพัฒนาและส่งมอบนวัตกรรมพลังงานในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เชลล์จึงให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยและการยกระดับคุณภาพชีวิตในระดับบุคคลและชุมชนควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ เชลล์มุ่งหวังให้ทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงพลังงานที่สะอาดและมีประสิทธิภาพ ในขณะที่อยู่ในสภาพแวดล้อม การดำรงชีวิต การทำงาน การพักผ่อนเรียนรู้ ที่สามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆ อาทิ สภาวะโลกร้อน ภัยด้านสุขภาพและอนามัย ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตลอดจนความกดดันของสภาวะเศรษฐกิจ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่กำลังมาถึง

เชลล์ชูโมเดล “Trusted Partner” เติมสุขให้ทุกชีวิต พันธกิจเพื่ออนาคต

ในมิติของธุรกิจพลังงานนั้น เชลล์มีสถานีบริการน้ำมันกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ นอกจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นทุกปีแล้ว กลยุทธ์หลักของเชลล์คือ การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อนำไปสู่พลังงานที่สะอาดมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพ และดีต่อสิ่งแวดล้อม หรือ “Powering Progress Together for More and Cleaner Energy Solutions” แนวทางดำเนินงานในหลากหลายส่วน อาทิ การพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทต่างๆ การมองหาโอกาสพลังงานทางเลือก การลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้จากการตระหนักถึงความรับผิดชอบร่วมกันในการสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนในแบบที่มีความสมดุล ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น หนึ่งในหลายความร่วมมือที่เชลล์จัดอยู่ในลำดับต้นๆ คือ การสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสัดส่วนการใช้ Bio Component ในไบโอดีเซลและเอทานอล ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ ได้แก่ เชลล์ อี 20 แก๊สโซฮอล์ (Shell E20 Gasohol) และ เชลล์ ฟิวเซฟ ดีเซล B10 (Shell FuelSave Diesel B10) น้ำมันดีเซลสูตรใหม่ที่มีการเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้

สำหรับการตอบความต้องการของผู้บริโภคด้วยสินค้าและบริการอื่นๆ นอกเหนือจากน้ำมัน (Non-Oil) นั้น เชลล์ก็ได้มีการปรับโฉมร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการน้ำมันเชลล์ หรือ “Shell Select” ให้ดูทันสมัยมากขึ้น เพิ่มจำนวนธุรกิจร้านกาแฟ “Deli Cafe” และร้านค้าต่างๆ รวมถึงนำแบรนด์ ‘เชลล์ชวนชิม’ มาแนะนำสู่ตลาดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ผู้คนที่มีความสนใจ นักเดินทาง รวมถึงผู้บริโภคทั่วไป ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอาหารในแบบไทย โดยได้คัดเลือกร้านอาหารอร่อยมาเปิดให้บริการ ณ สถานีบริการน้ำมันของเชลล์ ซึ่งนอกจากทำให้นักเดินทางและผู้บริโภคได้มีประสบการณ์กับอาหารรสชาติดี มีเอกลักษณ์แล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดและการขายให้กับผู้ประกอบการอาหารที่เป็นกลุ่ม SME ทั้งในเรื่องการเพิ่มโอกาสการจ้างงาน การสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก การส่งเสริมอาชีพได้กว้างขวางยิ่งขึ้นด้วย

ในมิติด้านสังคม เชลล์มีความผูกพันกับชุมชนโดยรอบ ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนไหนของประเทศไทย โดยเป็น “เพื่อนบ้าน” ที่ดีเสมอมา เชลล์ยึดหลักการเติบโตเคียงข้างชุมชน สนับสนุนการมีส่วนร่วมกันในด้านต่างๆ เช่น การวางมาตรฐานความปลอดภัยร่วมกันอย่างใกล้ชิด จัดทำระบบดับเพลิงประจำชุมชน สนับสนุนศูนย์ดูแลเด็กเล็ก Day Care Center ที่ชุมชนคลองเตย สานสายใยครอบครัวและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน ซึ่งเป็นครอบครัวของพนักงานที่เชลล์เปิดโอกาสให้ร่วมงานในบริษัทจากรุ่นสู่รุ่น นอกจากนี้เชลล์ยังมุ่งรักษาคุณค่าของชุมชนในแง่มุมต่างๆ ทั้งวัฒนธรรมท้องถิ่น พันธุ์ไม้ อาชีพ ตลอดจนการรักษาและพัฒนาพื้นที่สีเขียว เช่นที่ชุมชนบางกะเจ้า ให้มีความสมบรูณ์และยั่งยืนนายปนันท์ กล่าวอีกว่า ในฐานะองค์กรที่มีรากฐานคู่กับสังคมไทยและอุตสาหกรรมพลังงานมาอย่างยาวนาน ในเชิงสังคม เชลล์ตระหนักในคุณค่าของทรัพยากรบุคคลและให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรที่เป็นกำลังสำคัญของชาติอย่างยิ่ง ทั้งที่เป็นบุคลากรภายในองค์กรและบุคลากรในภาคส่วนต่างๆ เชลล์ ประเทศไทย ได้นำหลักการ Outward Mindset มาใช้เช่นเดียวกับบริษัทชั้นนำระดับโลกในการสร้างศักยภาพพนักงาน ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ในเนื้อหาของภารกิจที่ทำ เข้าใจความต้องการของผู้อื่น สร้างความภูมิใจให้กับบุคลากรเมื่อได้ทำงานร่วมกับองค์กรแห่งนี้

สำหรับบุคลากรภายใน ล่าสุดเชลล์ได้มีการปรับปรุงบรรยากาศในสถานที่ทำงานใหม่ในคอนเซ็ปต์ “Great Workplace” ประกอบด้วยแนวคิด Innovation and Collaboration ที่สร้างสรรค์ที่ทำงานแบบเปิดกว้าง เป็นพื้นที่โล่ง มีสัดส่วนพื้นที่ส่วนรวมกว้างขวาง ซึ่งจะทำให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกันได้สะดวกสบายมากขึ้น ลดขั้นตอนการทำงาน ป้องกันความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน สร้างการยอมรับในความแตกต่างและการมีส่วนร่วมภายในองค์กร แนวคิด Good health & Wellbeing ที่เป็นการแสดงความห่วงใยในความปลอดภัยโดยกำหนดให้เป็นหนึ่งในเป้าหมายธุรกิจโดยไม่แยกจากกัน การดูแลสุขภาพพนักงานด้วยนวัตกรรมออกแบบโต๊ะทำงานที่ดีต่อผู้ใช้งานและบรรยากาศการทำงานที่สร้างเสริมสุขภาวะ ที่พิเศษคือ ศูนย์กีฬาและออกกำลังกายที่พนักงานสามารถใช้งานได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด เพื่อส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิต อีกหนึ่งแนวคิดที่เชลล์ไม่อาจละเลย คือ Environmentally-friendly space ซึ่งเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมในการให้คนอยู่ร่วมกับธรรมชาติ นำธรรมชาติเข้าสู่องค์กร มีการคัดแยกและจัดการขยะแต่ละประเภท ติดตั้งแผงโซลาร์เพื่อนำพลังงานสะอาดมาใช้ ลดและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลาสติก และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เป็นต้น

เชลล์ชูโมเดล “Trusted Partner” เติมสุขให้ทุกชีวิต พันธกิจเพื่ออนาคต สำหรับเชลล์ ประเทศไทย “Trusted Partner” เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางธุรกิจที่พร้อมส่งมอบพลังงานสะอาด เพิ่มประสิทธิภาพ และดีต่อสิ่งแวดล้อม “ในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายนั้น เราไม่สามารถทำเพียงฝ่ายเดียวได้ทั้งหมด ในเชิงนโยบายด้านพลังงาน ก็ต้องทำงานร่วมกับภาครัฐ ต้องเข้าใจนโยบายทิศทางการดำเนินการ ต้องคำนึงถึงประชาชนในภาคส่วนต่างๆ ที่จะปรับเปลี่ยนมาสู่พลังงานที่สะอาดและยั่งยืน ในส่วนของการเป็นผู้ให้บริการน้ำมันและธุรกิจเชื่อมโยง ก็ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบในทุกส่วนปฏิบัติการ ต้องมีความปลอดภัยเหนือสิ่งอื่นใด แม้ในส่วนที่เป็นรายละเอียด เช่น การทำความเข้าใจกับผู้บริหารสถานีบริการน้ำมันให้เป็นกำลังสำคัญของบริษัทในการเข้าถึงและดูแลชุมชน เชลล์ต้องสานต่อและมุ่งเน้นการเติมสุขให้ทุกชีวิต เพื่อวันนี้และอนาคตต่อไป”