posttoday

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

14 กุมภาพันธ์ 2563

เรียนรู้ชีวิตรัก 47 ปี ไม่เคยหมดความหวานของลุงจิมและป้าต้อย คู่รักสูงวัยเจ้าของร้านฟู้ดทรัค ‘ไส้กรอกเยอรมันโฮมเมด’ และไอศกรีม ‘Uncle Jim Softserve’

“ลุงจิม อารัติ” และ “ป้าต้อย สุชาดา” สองสามีภรรยาครอบครัว “วินิจฉัยกุล” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “คู่รักฟู้ดทรัค” ใช้ชีวิตหลังเกษียณด้วยความกล้า ออกช่วยกันสร้างร้านขายไส้กรอกเยอรมันและไอศกรีม จนกลายเป็นที่รู้จักและโด่งดังในเรื่องของรสชาติความอร่อย

แต่นอกเหนือจากมุมมองทางด้านธุรกิจแล้ว ความสำเร็จที่เป็นแรงผลักอยู่เบื้องหลังให้ทุกอย่างเกิดขึ้นคือ ‘ความรัก’ ที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงของทั้งคู่ แม้ในวัยชราอายุล่วงเลยความหนุ่มสาว แต่ทั้งลุงจิมและป้าต้อยยังคงจูงมือและยิ้มแย้มให้แก่กัน ไปไหนมาไหนตัวติดกันตลอดเวลา

และซึ่งเนื่องในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ โพสต์ทูเดย์จึงได้ประสานขอคำแนะนำการครองรักอย่างไร ให้รักนั้นยาวนานเหมือนดั่งครั้งแรกที่พบกัน

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

เมื่อตัดสินใจ ‘รัก’ ต้องรักเหมือนอย่างวันแรกพบ

“ลุงเป็นคนบางเขน จบบัญชีเทคนิคกรุงเทพฯ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ได้มาเป็นนักบัญชีที่บริษัทอยู่ย่านหลานหลวงและก็พบกับเขา” ลุงจิมเริ่มเล่าถึงชีวิตรักของเขา “ป้าต้อยตอนนั้นอายุ 20 ห่างกัน 3 ปี ป้าต้อยจบด้านเลขานึการพอดีเขาได้ไปฝึกงานกับรุ่นพี่ของลุง รุ่นพี่เขาเลยฝากงานให้มาทำบัญชีเลยวานให้ลุงช่วยดูแล วันแรกที่เจอเขา ป้ายต้อยเขามาถามหาว่าคนไหนชื่ออารัติ”

ในสายตาของลุงจิมวินาทีแรกที่พบกับป้าต้อย ห้วงเวลานั้นไม่ได้คิดไปไกลถึงเรื่องความรัก แต่ด้วยความใกล้ชิดของการนั่งทำงานข้างกันและต้องสอนการทำงาน ความผูกพันก็ค่อยๆ ก่อตัวเป็นความรัก

“เรียบร้อย ขยัน” ลุงจิมฉีกยิ้มกว้างจนแก้มปริ “ย้ายที่ทำงานหลังจากนั้น 6 เดือน ไปรับตำแหน่งสมุห์บัญชีที่อื่น เจ้านายที่ทำงานเก่าเขาก็บอกกับป้าต้อยว่ามีอะไรให้โทรไปปรึกษาลุง ตกเย็นด้วยความเป็นห่วงลูกศิษย์ก็เทียวไปดูไปหาเขา”

สาวน้อยคลองสานฝั่งธนเมื่อได้สัมผัส ‘ความเป็นสุภาพบุรุษ’ ประพฤติตัวเรียบร้อย พูดจาไพเราะ สม่ำเสมอ ป้าต้อยก็ค่อยๆ แง้มเปิดหัวใจให้ความรักและตกลงศึกษาคบหาเป็นแฟนกับลุงจิม และในที่สุด 4 ปี ของบทพิสูจน์ทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน

“พ่อเป็นทหารอากาศ แม่เป็นข้าราชการครู ถูกสอนมาเรื่องระเบียบ ทำให้ทำอะไรก็มั่นคง ไม่เคยด่าเลยสักคำ ไม่เคยทำร้ายร่างกายเลย ลุงคิดว่าอันนี้เป็นจุดเริ่มของคู่รักที่คิดจะรักกันควรจะมีแรกสุด”

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

รักต้องเข้าใจ อยู่กับใครต้องให้เกียรติ

ชีวิตคู่หลายต่อหลายคนที่เดินทางไม่ถึงฝั่งฝันอย่างหัวใจปรารถนา แต่หากเข้าใจและให้เกียรติซึ่งกันและกัน รักที่มีให้กันก็ไม่มีวันถูกกัดเซาะ

“เจอกันครั้งแรกตอนปี 2516 แต่งงานตอนปี 2520 ตอนนี้ปี 2563 นับเวลาที่เราอยู่ก็มาก็ 47 ปีแล้ว” ลุงจิมหยุดเว้นวรรคพลางขยับเก้าอี้ พร้อมจับมือป้าต้อยให้นั่งลงเพื่อช่วยกันถ่ายทอดเรื่องราวความอันแสนยาวนาน

“ผู้ใหญ่บอกลุงว่า ‘ลิ้นกับฟัน’ มันมีกระทบกระทั่งกันอยู่แล้ว แต่คบกันถ้าคนหนึ่งแรงมา อีกคนต้องนิ่งและค่อยๆ อธิบายเหตุผลที่ทำให้ไม่เข้าใจ เพราะเรามาจากคนละที่ เมื่อมาอยู่ต้องมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันบ้าง เราก็ต้องปรับจูนเข้าหากัน  

“อย่ายึดในสิ่งที่ได้รับมาจากประสบการณ์การเติบโต ยึดติดกับสิ่งที่เราคิดว่ามันถูกต้องเสมอหรือว่าคิดว่าเราถูกอย่างเดียว ยืนยันว่ามันต้องอย่างนี้ๆ นะ เราต้องฟังเหตุฟังผลอีกคนด้วย ถ้าเหตุผลดีกว่า เราผ่อนได้ เราก็ผ่อน”

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

พอความเข้าใจยืดหยุ่นชีวิตคู่ คนสองคนแม้ต่างที่มา ต่างนิสัยใจคอ ก็จะดึงเข้าหากันได้คนละครึ่ง ไม่ว่าจะครึ่งเล็กหรือครึ่งใหญ่ก็แล้วแต่ แต่มันจะเป็นครึ่งที่สุขของแต่ละคนมารวมเข้าด้วยกัน ความรักมันก็จะลึกซึ้งและมั่นคง

“สิ่งใดที่อีกฝ่ายไม่ชอบ อีกฝ่ายก็จะไม่ทำ ปัญหาก็จะไม่เกิด" ลุงจิมเผย "พอมีความเข้าใจกันและกัน ความเข้าใจจะส่งต่อให้เราให้เกียรติกัน เราก็จะดูแลกันทั้งทุกข์และสุข ดูแลน้ำใจกันทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะบางสิ่งบางอย่างเราทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีผู้ช่วย อย่างป้าต้อยถ้าเห็นลุงกำลังยกของหนักๆ ผู้หญิงไม่มีแรงเยอะ ก็เลือกที่จะมาช่วยประคอง จะไม่มองให้กำลังใจด้วยสายตาเฉยๆ”

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

ก้าวคนละข้าง ‘พารัก’ เดินไปด้วยกัน

“ไม่ว่าสามีหรือภรรยา ต่างก็เป็นเท้าหน้าได้” ป้าต้อยอธิบายเส้นทางการประคองความรักให้ผ่านทุกเหตุการณ์ของชีวิต          

“หลังแต่งงานจนลูกชายคนโตอายุได้ราว 1 ขวบ ลุงจิมออกจากงานบัญชีมาขายเครื่องเขียน จากนั้นมาทำร้านเบาะรถยนต์ โซฟา ป้าลาออกจากงานเพื่อมาเลี้ยงลูกและช่วยดูแลกิจการ ซึ่งป้าไม่มีความรู้เลย ก็ศึกษา จดๆ ไว้ท่องเป็นนักแก้วนกขุนทองจนขึ้นใจ ร้านขายดีมากรุ่งเรืองมีลูกถึงน้อง 25 คน

“พอเราอยู่ตัวกันได้ ลุงก็ไปแยกไปทำรถมือ 2 ขาย แล้วก็มาฝากขายที่ร้าน ป้าทำแบบเดิม จดยี่ห้อรถ ระบบเครื่องยนต์ ระบบเกียร์แบบไหน มาฝากคันไหนแป๊บเดียวขายออก คือชีวิตคู่มันต้องก้าวไปด้วยกัน เราต้องคุยกัน ปรึกษากัน อย่างป้าเตือนลุงว่ารถที่เอามาขายบางคันขายตามสภาพเลย ทั้งๆ ที่ลุงมีความรู้เรื่องรถ จะแย้งก็ได้ แต่เขาเชื่อเรา สุดท้ายขายออกไวด้วย”

นอกจากการผลัดกันก้าวเดินจะช่วยให้ชีวิตคู่ยืนนานด้วยดี อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้ว่าชีวิตนั้นมีขึ้นก็มีลง มีเหตุการณ์ที่พากันไปข้างหน้าถูกต้อง ก็ย่อมมีช่วงเวลาที่พากันก้าวผิดพลาด แต่สิ่งที่สำคัญคือ ‘เมื่อล้ม’ ก็ต้องอยู่ด้วยกันและไม่กล่าวโทษกันเอง

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

“หลายๆ คนอาจจะโทษกันว่าอีกคนเป็นสาเหตุ โดยเฉพาะเรื่องเงินที่ทำให้ครอบครัวพังเป็นส่วนใหญ่ แต่คู่ของเราไม่โทษกันและกัน ตอนที่ธุรกิจเบาะกำลังดีๆ ลุงเลิกทำเพราะว่าป้าแพ้สารเคมี ต้องฉีดยาที่จมูกเจ็บมาก ลุงบอกว่า ‘สุขภาพไม่ดีแล้วทำไปเพื่ออะไร เงินมันซื้อสุขภาพป้าไมได้’ และลุงก็เอาเงินที่มีทำโชว์รูมรถใหม่เป็นตัวแทนขาย ก็ขายได้ไปได้ด้วยดี”

ไม่โทษว่าเป็นเพราะเธอหรือเป็นเพราะฉัน ทุกอย่างเกิดมันก็ผ่านไปได้ เราไม่ต้องไปจมปลักอยู่กับมัน เอาเวลามาเก็บเกี่ยวความสุขดีกว่าจะมานั่งคิดถึงสิ่งที่เสียไปแล้วไม่มีประโยชน์

“ต่อจากร้านโชว์รูมลุงก็เดินหน้าต่อ ได้ไอเดียมาเปิดร้านคอมฯ แต่ตั้งแต่เกิดลุงไม่เคยจับเมาส์เลย พอมีเด็กมาจ้างพิมพ์งานเยอะๆ ลุงทำไม่เป็น ป้าทำได้คนเดียวเพราะมีพื้นฐานการพิมพ์ดีด ก็ทำคนเดียวยันเช้า แต่ลุงไม่ทิ้งป้านะ ไปหยิบเอาเตียงพับมากางนอนข้างๆ เรื่องตรงนี้สอนป้ากับลุงว่าเรารักกันดีกว่า เราตั้งใจรักแล้ว เราอยากใช้ชีวิตด้วยกันเพราะอยากมีความสุข ทะเลาะกันมันเหมือนขาดทุน”

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

ทำทุกวันให้เป็น ‘วันสุข’

ใจความของการครองรักให้ยาวนานและคงความหวานเหมือนครั้งแรกรักของทั้งคู่คือการ “ทำทุกวันๆ ให้เป็นวันที่มีความสุข” ผ่านการค้าขายเล็กๆ บนรถฟู้ดทรัค

“เปิดร้านฟู้ดทรัค ‘ไส้กรอกเยอรมันโฮมเมด’ และ ‘ไอศกรีม Uncle Jim Softserve’ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพราะไม่ได้ทำงานอะไรแล้ว เกษียณ ทีนี้พอว่างตอนนั้นรู้สึกเหมือนว่าตัวเองไม่มีค่า”

คำว่าไม่มีค่าของลุงจิม ไม่เพียงแต่ส่งผลในเรื่องของแง่มุมการเงินที่จะหมดไปหากไม่ทำงานเพียงเท่านั้น ในแง่ของความรักทุกๆ อย่างก็อาจจะดูเฉาลงไปด้วยหากปล่อยตัวเองให้อยู่กับบ้านและไปเที่ยวเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งเดือนๆ หนึ่งก็จะมีเพียง 8 วันเท่านั้น

“ลูกชายคนเล็กเขาอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เลยคุยกับเขาบอกว่าญาติเรามีทำโรงงานไส้กรอกเยอรมันอยู่ เขาสนใจไหม สรุปเขาสนก็ไปซื้อมาลองทำจนได้สูตรน้ำซอสปรุงเป็นของตัวเอง ลุงก็เลยซื้อรถให้ลูกทำ ปรากฏว่าเขาทำแล้วมันรุ่ง สักพักเราก็เลยไปลองมั่ง เอาไส้กรอกมาปิ้งขายบ้างและก็พวงไอศกรีมไปด้วย ก็ขายดีแบบลูกชายเลย ขนาดแรกๆ ไปลองขายงานประจำปีของวังน้ำเขียวนะ ก่อนจะมาขายที่กรุงเทพฯ”

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

ลุงจิมยิ้มร่าอีกครั้งเมื่อเล่าถึง 2 ปีที่แล้ว เพราะเขาเองก็ไม่คาดคิดว่าการมาเปิดร้านฟู้ดทรัคขายไส้กรอกเยอรมันโฮมเมดและไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ นอกจากเงินรายได้แล้ว ลุงจิมและป้าต้อยยังได้สัมผัสความรู้สึกเก่าๆ ที่ในทุกๆ ตอนเช้าได้ลุยชีวิตสู้ธุรกิจร่วมกัน ตกเย็นก่อนนอนได้นั่งปรึกษาหาทางแก้หรือพัฒนาชีวิตให้มันดี ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้เองที่โยงใยสายสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้รักกันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นๆ โดยไม่รู้ตัว

“ทุกวันนี้เหมือนเราท่องเที่ยวไปด้วยกันอย่างที่ฝันกันไว้ ทุกๆ วันการออกมาเปิดร้านมันเหมือนเราพากันไปเที่ยว เพียงแต่มันซ่อนในการใช้ชีวิตชีวิตประจำวัน ตอนนี้มาห้างมาขายของเหมือนเรามาฮันนีมูนกันทุกวัน ดินเนอร์กันทุกคืนบนรถฟู้ดทรัคเรา

“ถ้าถามว่าลุงกับป้ารักแค่ไหนในตอนนี้ มันเกินจากคำว่ารักไปแล้วนะ เพราะเราเป็นสามี เป็นภรรยา เป็นทั้งเพื่อน พี่ ทุกอย่างๆ ที่เล่ามาทั้งหมดมันรวมกันหมดจนเป็นระหว่างลุงกับป้าในวันนี้” ลุงจิมกล่าวทิ้งท้าย

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

ปรุงรักให้หวานด้วยกันและกัน “ลุงจิม-ป้าต้อย” คู่รักฟู้ดทรัค 47 ปี ทุกวันนี้รักกว่าเมื่อวาน

สำหรับใครที่สนใจสามารถไปลองชิม ‘ไส้กรอกเยอรมัน โฮมเมด’ และ ไอศกรีม ‘Uncle Jim Softserve’ ของลุงจิมและป้าต้อย ได้ที่ เดอะ ไบรท์ พระราม 2,เซ็นทรัลมหาชัย,ล้ง1919 และตลาดหลังการบินไทย โดยสามารถเช็คดูวันเวลาและสถานที่จะไปขายได้ในเพจเฟซบุ๊ก “Uncle Jim Softserve&Sausage”