posttoday

ผลตรวจชี้ชัด!รถเก๋งชนหมอมุก

21 มิถุนายน 2554

“จรัมพร”ระบุผลตรวจรถเก๋งชัดเจนเป็นรถที่ชนหมอมุก ชี้ไม่พบรอยบุบบนด้านหน้ารถจึงไม่น่าเชื่อพญ.กระโดดใส่ตามคำให้การผู้ต้องหา

“จรัมพร”ระบุผลตรวจรถเก๋งชัดเจนเป็นรถที่ชนหมอมุก ชี้ไม่พบรอยบุบบนด้านหน้ารถจึงไม่น่าเชื่อพญ.กระโดดใส่ตามคำให้การผู้ต้องหา

พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ.ตร. กล่าวถึงผลการตรวจรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นซันนี่ นีโอ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน วค1355 กรุงเทพมหานคร รถต้องสงสัยขับพุ่งชน  พ.ต.แพทย์หญิง หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก แพทย์ประจำ รพ.พระมงกุฎ ว่า เมื่อได้รับรถจากพนักงานสอบสวนสน.พญาไท ก็ได้ระดมนักวิทยาศาสตร์ทั้งด้านเคมี ฟิสิกส์ ชีวะ เพื่อตรวจพิสูจน์รถคันดังกล่าว

ทั้งนี้ประเด็นแรกได้ตรวจสอบเลขทะเบียนและหมายเลขตัวถังรถปรากฏว่าตรงกันไม่มีการแข้ไขเครื่องเป็นรถคันที่จนทะเบียนเอาไว้จริง

ผลตรวจชี้ชัด!รถเก๋งชนหมอมุก

ประเด็นที่ 2 ได้ตรวจสอบใบปัดน้ำฝนด้านหน้าสภาพด้านซ้ายที่ไม่หักแตกต่างจากด้านขวาที่หักไป เป็นคนละรุ่นกัน  แต่ที่ปัดน้ำฝนด้านขวาจะเปลี่ยนมาเมื่อไหร่ไม่ทราบได้ เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับทีใบปัดน้ำฝนที่หักติดตัวหมอไปปรากฏว่าใบที่หักไปเป็นใบปัดน้ำฝนของรถรุ่นนี้ มีตัวเลขอะไหล่กำกับเป็น 6300 ส่วนด้านซ้ายที่ติดอย่ากับตัวรถมีหมายเลขอะไหล่ 6301 ขณะที่ใบปัดน้ำฝนด้านขวาที่ติดกับตัวรถที่นำมาตรวจนั้นก็ลักษณะไม่มีเลขประจำอะไหล่ และตรวจสอบพบว่าตัวน็อต 2 ตัวที่ขันยึดติดใบปัดน้ำฝนมีลักษณะใหม่

"เราได้เปรียบเทียบใบปัดน้ำฝนของรถเจ้าหน้าที่ซึ่งใช้รถนิสสันนีโอทุกคันจะมีเลขรหัสอะไหล่ 6300 และ6301 ซึ่งลักษณะการกะเทาะของสีนั้นนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเกิดจากแรงกระชากออกไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อตรวจเปรียบเทียบสีรถกับสีที่หลุดติดกับเครื่องปัดน้ำฝนกับเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์พบว่าสีสัมพันธ์กัน"

พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวอีกว่า ประเด็นต่อมาได้ตรวจสอบพบรอบกะเทาะสีขาวนวลติดอยู่ที่ใบปักน้ำฝนที่ได้จากที่เกิดเหตุ จึงมาตรวจรถเพื่อหาร่องรอยการกะเทาะของสี พบมีรอยกะเทาะของสีที่บริเวณขอบฝากระโปรงหน้าด้านขวามีลักษณะรอยกะเทาะ ขนาด 2x7 มม.ซึ่งสัมพันธ์กับขนาดของสีที่พบบนใบปักน้ำฝน

นอกจากนั้นได้ตรวจสอบรอยติดสติ๊กเกอร์หน้ารถหลังจากที่มารดาของหมอมุกระบุมีสติ๊กเกอร์ติดหน้ารถหลายอัน แต่รถที่นำมาตรวจพิสูจน์มีติดสติ๊กเกอร์เพียงกันเดียวสีแดงเขียนกองทัพไทย ก็ได้ทำก็ได้ทำการตรวจก็พบว่ามีรอยสติ๊กเกอร์มากกว่า 1 อัน มีร่องรอยเศษสติ๊กเกอร์ติดหน้ากระจกและพบรอยผ้าเช็ดถูแต่ก็ไม่สามรถระบุได้ว่ามีการแก้ไขอะไรก่อนหน้านี้

“เราเจอจุดสำคัญที่บริเวณร่องด้านล่างที่ปัดน้ำฝนด้านขวาพบมูลนก ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าระหว่างที่รอเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนนกมาถ่ายใส่ไว้ เนื่องจากหากมีใบน้ำฝนติดอยู่เป็นปกติมูลนกจะไม่สามารถหล่นไปในร่องดังกล่าวได้เพราะใบปัดน้ำฝนจะปิดเอาไว้ เป็นหลักฐานสำคัญอันหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้การสังเกต นอกจากนั้นยังพบว่ากระจังหน้ารถน่าจะมีการเปลี่ยนมา แต่เมื่อไหร่ไม่ทราบเพราะสังเกตได้จากรูน็อตบางรูมีสายไฟมัดเป็นเกรียวไว้ บางรูก็ยังไม่ได้ใส่หัวน็อต ”ผบช.สพฐ.กล่าว

พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ยังเก็บลายนิ้มมือทั้งภายในและภายนอกตัวรถ รวมทั้งการไปเก็บลายนิ้วมือ ตัวอย่างดีเอ็นเอที่รถหมอมุกด้วยเพราะเชื่อว่าข้อความที่เขียนบนรถหมอมุกนั้น คนร้ายใช้มือเขียน ก็จะเก็บลายนิ้วมือไว้เพื่อเปรียบเทียบกับคนร้ายหรือผู้ต้องสงสัยต่อไป โดยได้ประสานกับแม่ของหมอมุกเพื่อเก็บลายนิ้วมือของหมอมุกเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการตรวจเปรียบหรือตัดข้อมูลบางชุดออก ซึ่งแม่ของหมอมุกก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เมื่อวานเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปเก็บตัวอย่างลายนิ้วมือของหมอมุกและแม่หมอมุกเรียบร้อยแล้ว

"จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดชัดเจนว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถที่ชนหมอมุก แต่จะขับมารวดเร็วขนาดไหนนั้นไม่สามารถบอกได้เพราะไม่ได้มีการไปตรวจสอบรอบเบรกในที่เกิดเหตุ ส่วนที่ผู้ต้องหาระบุว่าหมอมุกกระโดดใส่รถเองนั้น จากการตรวจสอบไม่พบว่ารถมีรอยบุบที่บริเวณหน้ารถพบเพียงรอบกะเทาะจุดเล็กๆในบางจุดเท่านั้น และจากการตรวจสอบก็ไม่พบว่ารถบุบบริเวณไหน ไม่มีการทำสีมาใหม่ซึ่งก็สัมพันธ์กับที่ร่างกายของหมอมุกไม่ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลที่บริเวณอื่นของร่างกายที่กระทบกระแทกกับรถมีเพียงบาดเจ็บที่ศีรษะเท่านั้น"พล.ต.ท.จรัมพรกล่าว