posttoday

"บิ๊กปั๊ด"บินด่วนลงใต้จี้สางคดีสังหารโหดหนุ่มแคนนาดา

07 กุมภาพันธ์ 2565

ภูเก็ต-ผบ.ตร.สั่งตั้ง 20 ชุดคลี่คลายคดีสังหารโหดหนุ่มแคนาดาถูกสังหารโหดกลางเมืองภูเก็ต พบประวัติผู้เสียชีวิตไม่ธรรมดาฉายา"ไอ้หน้าบาก"โยงแก๊งมาเฟียข้ามชาติพัวพันธุรกิจมืดอื้อ

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุม ศปก.ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.เดินทางเข้าร่วมประชุมกับทีมตำรวจชุดสืบสวนและคลี่คลายคดีเพื่อติดตามคดีนายจิมมี่ ซิง ซานดู ชาวแคนาดา ถูกคนร้ายสองคนใช้อาวุธปืนรัวยิงกว่า 10 นัด จนเสียชีวิตบริเวณหน้าวิลล่า A โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลราไวย์เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ โดยมี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผบก.ทท.3 ให้การต้อนรับ

\"บิ๊กปั๊ด\"บินด่วนลงใต้จี้สางคดีสังหารโหดหนุ่มแคนนาดา

จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตและคนร้ายไม่น่าจะใช่นักท่องเที่ยวธรรมดา แต่อาจพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมายหลายอย่าง โดยการประชุมกับทีมตำรวจชุดสืบสวนและคลี่คลายคดี ได้แบ่งแบ่งการทำงานออกเป็น 20 ชุด เพื่อติดตามความคืบหน้าและให้แนวทางในการสืบสวนเพิ่มเติม โดย ผบ.ตร.สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบประวัติที่ชัดเจนของผู้ตายว่า เป็นใครมาจากไหน มีส่วนพัวพันกับคดีที่ผิดกฎหมายใดบ้าง เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟีย แก๊งสำคัญในแคนาดาและอินเดียจริงหรือไม่ และปมการสังหารจะเป็นการฆ่าล้างแค้นกันระหว่างแก๊งมาเฟียข้ามชาติที่มีประวัติทำผิดกฎหมายอย่างโชกโชนตามกระแสข่าวหรือไม่ หลังจากพบว่าผู้ตายมีการปลอมแปลงตัวตน โดยการใช้ชื่อและพาสปอร์ตของผู้อื่นในการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย โดยจะประสานกับทางสถานทูตเพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นนี้

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผบ.ตร. ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ และติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยว พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังยึดตามหลักยุทธวิธีในการเข้าจับกุมผู้ต้องหาเนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาได้ก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและอาจมีอาวุธปืนในครอบครอง ให้มุ่งเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนเป็นหลัก

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติผู้เสียชีวิตพบว่า เข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 เข้ามายังจังหวัดภูเก็ตโดยเครื่องบินส่วนตัวพนักงานสอบสวนได้ทำการการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก ยังไม่ตัดประเด็นมูลเหตุจูงใจใดๆ ทิ้งไปทั้งนี้ยังคงอยู่ระหว่างการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศแคนาดาอย่างใกล้ชิดเพื่อได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน และรอผลการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อพิสูจน์ทราบผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ รวมถึงเส้นทางที่ใช้หลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกส่วนได้เร่งรัดติดตามผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด และเนื่องจากมีการนำเสนอข่าวนี้อย่างแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจทำให้สังคมเกิดความสับสวนและเสียรูปคดี ขอความร่วมมือติดตามข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น

มีรายงานว่า สำหรับผู้ตายไม่ใช่ชาวแคนาดาโดยกำเนิด แต่เป็นชาวอินเดีย ชื่อจริงคือ Mr.Singn Mandeep หรือ นายซิง แมนดีฟ หรือ นายจิมมี่ ซิง ซานดู มีประวัติเกี่ยวพันกับองค์กรอาชญากรรมจึงถูกเนรเทศและถูกถอนสัญชาติแคนาดา ก่อนย้ายถิ่นฐานไปอยู่แคนาดาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จากนั้นเข้าไปยุ่งเกี่ยวคดีอาชญากรรมสำคัญมากมาย ทำให้ถูกหมายจับ และหลบหนีเข้ามาประเทศไทย โดยผู้ตายมีหมายจับ เคยก่อเหตุสังหารคนในแก๊ง "เรดสกอร์เปี้ยน" ที่แคนาดา ซึ่งถูกพิจาณณาคดี และถูกเนรเทศออกนอกประเทศ จากนั้นเข้าไปก่อเหตุค้ายาเสพติดที่อินเดีย จนเป็นที่ต้องการตัวอย่างมาก

สำหรับ การติดตามคนร้าย ล่าสุดมีพยานอ้างว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีการพูดคุยเป็นภาษารัสเซีย และขณะนี้อยู่ระหว่างการเชื่อมโยงเส้นทางหลบหนี โดยมีรายงานด้วยว่า นายจิมมี่ เป็นบุคคลที่เชื่อมโยงกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเจ้าตัวมีฉายาว่า "slice"หรือ ไอ้หน้าบาก เนื่องจากจากรอยแผลเป็นที่แก้มขวา โดยเป็นสมาชิกอยู่ในแก๊ง United Nations หนึ่งในแก๊งที่มีอิทธิพลมากที่สุดของแคนาดา เกี่ยวข้องกับธุรกิจพัวพัน ธุรกิจค้ายาเสพติด ธุรกิจค้ามนุษย์ ค้าประเวณี ธุรกิจบ่อนการพนัน ธุรกิจมาเฟีย เรียกค่าคุ้มครอง