posttoday

สธ.รณรงค์คนท้องฉีดวัคซีนโควิด พบ 6 เดือน ดับ 95 ศพ เด็กในครรภ์ตาย 46 ชีวิต

20 ตุลาคม 2564

กระทรวงสาธารณสุข เผยหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ-เสียชีวิต ส่วนใหญ่ยังไม่ฉีดวัคซีน พบ 1 เม.ย.-16 ตค. ดับแล้ว 95 ศพ เด็กในครรภ์ตาย 46 ชีวิต อันตรายกว่าผลข้างเคียง ย้ำวัคซีนที่นำเข้ามามีความปลอดภัย

นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ และโฆษกกรมอนามัย กล่าวถึงการติดเชื้อโควิด 19 และผลการรณรงค์ฉีดวัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ ว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด พบว่าสัดส่วนการเสียชีวิต สูงขึ้นกว่าภาวะปกติถึง 50-60% และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ในหลายประเทศ โดยในยุโรปและสหรัฐอเมริกา พบประมาณ 25% สำหรับประเทศไทย ตั้งแต่ ต.ค. 2563 - ก.ย. 2564 มีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตทั้งหมด 192 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตจากโควิด 19 ถึง 78 ราย คิดเป็น 38% ซึ่งถือว่าสูงมาก

สำหรับช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ 1 เม.ย. - 16 ต.ค. 2564 มีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 4,778 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกทม. ปริมณฑล และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทารกติดเชื้อจากมารดา 226 ราย หญิงตั้งครรภ์เสียชีวิต 95 ราย ทารกที่อยู่ในครรภ์เสียชีวิต 46 ราย กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งฉีดวัคซีนให้หญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่เดือนก.ค. 2564 ตั้งเป้าหมาย 1 แสนคน ขณะนี้ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 7.5 หมื่นคน เข็มสอง 5.1 หมื่นคน และได้รับการกระตุ้นเข็ม 3 จำนวน 526 คนส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ตั้งครรภ์ ภาพรวมผลหลังการรณรงค์ฉีดวัคซีนในระดับเขตสุขภาพ พบว่า ภาคตะวันออกฉีดได้สูงสุด 40% และภาคกลาง อาทิ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ได้กว่า 30% ส่วนภาคอีสานฉีดได้เพียง 10-20%

“จำนวนหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ที่ต้องได้รับวัคซีนมีประมาณ 3 แสนราย ขณะนี้ฉีดได้เพียง 7.5 หมื่นราย หรือประมาณ 25% จึงต้องเร่งรณรงค์ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนให้มากขึ้น เนื่องจากพบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อประมาณ 95% ไม่ได้รับวัคซีน เป็นสาเหตุทำให้มีอาการรุนแรงและเสียชีวิต จึงขอให้หญิงตั้งครรภ์เข้ารับการฉีดวัคซีนได้ฟรีที่สถานบริการของรัฐใกล้บ้าน หรือคลินิกฝากครรภ์ สำหรับหญิงให้นมบุตรสามารถฉีดวัคซีนได้ไม่มีผลต่อน้ำนม และประโยชน์จากการฉีดวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยงหรือผลข้างเคียง” นายแพทย์เอกชัยกล่าว

สธ.รณรงค์คนท้องฉีดวัคซีนโควิด พบ 6 เดือน ดับ 95 ศพ เด็กในครรภ์ตาย 46 ชีวิต

นายแพทย์เอกชัยกล่าวต่อว่า จากผลสำรวจอนามัยโพล หญิงตั้งครรภ์กับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ระหว่างวันที่ 15 - 29 ก.ย. 2564 จากหญิงตั้งครรภ์ทั่วประเทศ 1,165 คน พบว่า 98% ฝากครรภ์แล้ว อยู่ร่วมกับสมาชิกในบ้านมากกว่า 2 คนขึ้นไป โดยครึ่งหนึ่งไม่ได้ฉีดวัคซีนเลย 60% ตั้งใจจะฉีดวัคซีน ส่วนที่เหลือยังลังเล โดย 1 ใน 3มีความกังวลเรื่องความปลอดภัย ผลข้างเคียง ไม่มั่นใจประสิทธิภาพ ส่วนที่เหลือเป็นเหตุผลอื่น เช่น ไม่ทราบว่า จะไปฉีดที่ไหน ไม่มีเวลา เป็นต้น

ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ฯ สมาคมโรคติดเชื้อฯ และกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลตรงกันว่าจากรายงานการศึกษาวิจัยในต่างประเทศ ยืนยันวัคซีนสูตรไขว้สามารถฉีดในหญิงตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย ผลข้างเคียงไม่ต่างจากคนทั่วไปและหายเองได้ เช่น ปวดศีรษะ ไข้เล็กน้อย อ่อนเพลีย เป็นต้น สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน หรืออยู่ร่วมกับผู้อื่น ขอให้ป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention)สวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่างเมื่อเข้าที่ชุมชน ล้างมือ ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น แยกรับประทานอาหาร และทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมในบ้าน ส่วนกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะต้องเพิ่มความระมัดระวัง และป้องกันตนเองขั้นสูงสุดเช่นกัน