posttoday

เครือข่ายฯ เผย นิวซีแลนด์ผ่านกม.ใหม่หนุนสิงห์อมควันเปลี่ยนใช้บุหรี่ไฟฟ้า

22 กันยายน 2564

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า เผย รัฐบาลนิวซีแลนด์ออกกฎหมายฉบับใหม่ สนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการควบคุมซึ่งรวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า

นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ากลุ่มลาขาดควันยาสูบ และแอดมินเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน เปิดเผยว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ผ่านกฎหมายสิ่งแวดล้อมปลอดควันฉบับใหม่ที่จะช่วยชีวิตผู้สูบบุหรี่ของนิวซีแลนด์จำนวนมาก โดยสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้ทางเลือกที่อันตรายน้อยกว่าบุหรี่ซิกาแรตซึ่งรวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าและยาสูบแบบใช้ความร้อน โดยความตั้งใจของกฎหมายนี้คือการให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือก และควบคุมบุหรี่แบบดั้งเดิมให้เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับประเทศไทยที่แบนทางเลือกดังกล่าว แถมประโคมข่าวในแง่ลบเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าตลอดเวลาจนทำให้สังคมเข้าใจผิดมาตลอด

รายงานข่าวจากนิวซีแลนด์ระบุว่า รัฐมนตรีสาธารณสุขนิวซีแลนด์ เจนนี ซัลเลซา ให้ความเห็นว่า กฎหมายฉบับนี้มุ่งทำให้เกิดความสมดุลระหว่างการช่วยผู้สูบบุหรี่ให้เลิกสูบโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือก ขณะที่พยายามไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้ามาริเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ท่าทีของรัฐบาลนิวซีแลนด์นั้นได้พิจารณาเห็นว่าผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าหรือผลิตภัณฑ์ไร้ควันมีศักยภาพที่จะช่วยให้นิวซีแลนด์บรรลุเป้าหมายสังคมปลอดบุหรี่ภายในปี 2568 ได้ โดยในกฎหมายฉบับใหม่นี้กำหนดให้ร้านค้าและช่องทางจำหน่ายออนไลน์แสดงข้อความว่า “การแทนที่บุหรี่ด้วยการใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยลดอันตรายต่อสุขภาพของคุณ” และ “ถ้าคุณสูบบุหรี่ การเปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทนจะเป็นทางเลือกที่อันตรายน้อยกว่ามาก

ด้านนายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าอีกรายหนึ่ง กล่าวว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์ยังได้รณรงค์ให้ความรู้อย่างหนักเพื่อให้ผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่เป็นอันตรายน้อยกว่า และหน่วยงานส่งเสริมสุขภาพของเขาได้ทำเว็บไซต์ชื่อ vapingfacts.health.nz เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สูบบุหรี่เพื่อช่วยให้เลิกสูบได้ แต่รัฐบาลไทยกลับเลือกทำให้บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายทำให้เกิดธุรกิจใต้ดิน การลักลอบซื้อขายออนไลน์ มีการใช้กันเกลื่อนโดยไม่สามารถบังคับใช้หรือควบคุมได้จริง ไม่สามารถป้องกันการเข้าถึงของเด็กและเยาวชนได้ และยังทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษี และสูญเสียโอกาสในการลดการเจ็บป่วยเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่อย่างมหาศาล

“ในการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกในเดือนพฤศจิกายนนี้ เราอยากเห็นประเทศไทยยอมรับความจริงว่านโยบายแบนบุหรี่ไฟฟ้าของไทยล้มเหลว บังคับใช้ไม่ได้จริง และปิดกั้นทางเลือกของประชาชน รวมทั้งให้กระทรวงสาธารณสุขของไทยลองไปดูหน่วยงานสาธารณสุขชั้นนำในประเทศอื่นๆ เช่น นิวซีแลนด์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา หรือสหภาพยุโรป เป็นต้นแบบในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกต้องตามกฎหมาย” นายมาริษ กล่าว