posttoday

ศบค.จับตาคลายล็อค แรงงานแห่เข้ากรุง สั่งคุมเข้ม-ฉีดวัคซีน

01 กันยายน 2564

ศบค. ปรับแผนระดมฉีดวัคซีนกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไปเพิ่ม ห่วงหลังคลายล็อค 1 ก.ย. แรงงานต่างจังหวัดแห่กลับกทม. สั่งคุมเข้มตรวจหาเชื้อ - ระดมฉีดวัคซีนกลุ่มนี้ด่วน สั่งห้ามยุบรพ.สนาม หวั่น กลับมาระบาดซ้ำ

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันมีวัคซีนเข้ามาในประเทศไทย 40 ล้านโดส ฉีดไปแล้ว 32 ล้านโดส อีก 8 ล้านโดสยังอยู่ในระบบ หรือฉีดแล้วแต่ยังไม่มีการลงข้อมูล จึงขอให้หน่วยฉีดเร่งลงข้อมูลการฉีด อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้เสียชีวิตวันนี้ในกลุ่มผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไปมีจำนวนมาก ทำให้ขณะนี้เรากำลังพิจารณาเพิ่มกลุ่มคนอายุ 50 ปี ให้ได้รับวัคซีนโดยด่วนด้วย

การเปิดกิจการ/กิจกรรม ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ จะทำให้พี่น้องแรงงานกลับเข้ามากทม. และปริมณฑล ขอให้ทุกจังหวัดมีการติดตาม คัดกรองพี่น้องประชาชนกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด รวมถึงจะพยายามระดมฉีดวัคซีนให้แก่คนงานที่อยู่ในแคมป์คนงานต่างๆ และมีการตรวจหาเชื้อ ทั้งนี้ ส่วนของการฉีดวัควีนให้กับกลุ่มผู้ประกันตน มาตรา 33 ตั้งแต่เดือนมิถุนายน – 30 สิงหาคม ในพื้นที่กทม. และ 10 จังหวัด มีผู้ได้รับวัคซีนแล้วทั้งสิ้น 1.8 ล้านคน โดยเป็นส่วนที่ฉีดให้กบแรงงานในแคมป์คนงาน พื้นที่ กทม. จำนวน 50,026 คน จะเห็นได้ชัดว่าน่าจะมีคนงานที่เพิ่งกลับจากต่างจังหวัดและไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก ซึ่งกทม. รายงานว่า จะมีสำนักโยธาธิการ ร่วมกับกระทรวงแรงงาน เป็นเจ้าภาพในการทำการสำรวจเรื่องดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคลัสเตอร์แรงงานขึ้นอีก รวมทั้งกรณีความเสี่ยงสถานีขนส่งทั้งทางบก น้ำ อากาศ ตอนนี้เริ่มเปิดให้บริการเกือบปกติ ขอให้ทุกภาคส่วน ทุกพื้นที่จังหวัดเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงเหล่านี้

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ในที่ประชุม ศปก.ศบค. ได้หารือกันว่า แม้ตัวเลขจะลดลง แต่ยังขอให้ตรึงกำลังระบบบริการสาธารณสุข เนื่องจากมีหลายจังหวัดปิดโรงพยาบาลสนามเพื่อจะคืนพื้นที่ จึงขอให้มีโครงสร้างรองรับไว้หากตัวเลขกลับมาสูงขึ้นอีก