"สุชาติ"มีเอกสารยืนยันชุดผกก.โจ้ล่อซื้อยาเสพติดตามยุทธวิธี
รองผบ.ตร.ยันมีหลักฐานชุดผกก.โจ้ล่อซื้อยาเสพติดจากผู้ต้องหาทำตามยุทธวิธี แต่ใช้ถุงคลุมหัวเป็นคนละส่วน พ่อไม่เคยรู้ลูกชายเป็นนักค้ายาเสพติด
พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าคดีตำรวจใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิตว่า มีเอกสารยืนยัน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกไว้เป็นเอกสารการล่อซื้อยาเสพติดเป็น เลขธนบัตรที่ล่อซื้อ เป็นธนบัตรชนิด 1,000 บาท จำนวน 64 ใบ รวม 64,000 บาทระบุเวลาไว้ช่วงเวลา 20.00น. คืนวันที่ 4 สิงหาคม 2564 ถือเป็นเอกสารชิ้นสำคัญที่คณะทำงานคดีคลายคดีตำรวจใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต ซึ่งยืนยันว่าการจับกุมและล่อซื้อทำตามยุทธวิธีของตำรวจส่วนพฤติการณ์ที่เกินกว่าเหตุโดยการใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหาจนเสียชีวิตเป็นคนละส่วนกับวิธีการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด
พลตำรวจเอกสุชาติยัง อธิบายถึงวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปส 05 ไปล่อซื้อยาเสพติดจากผู้ต้องหาเมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 สิงหาคม ได้วางแผนเข้าล่อซื้อยาเสพติดที่ถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ จนกระทั่ง นายมาวินขับรถ กระบะ Toyota สีขาว มาพร้อมกับแฟนสาวเจ้าหน้าที่จึงล่อซื้อและแสดงตัวเข้าจับกุม พบยาไอซ์จำนวน 3 ถุงเล็ก และยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็มีการตรวจค้นหลักฐานเพิ่มเติมพบว่า โทรศัพท์มือถือของนายมาวินมีการถ่ายรูปยาเสพติด
ส่วนประเด็นคำถามที่สื่อมวลชนถามเกี่ยวกับพ่อของนายมาวินที่มีการให้การว่าลูกชายเสียชีวิตจากโรคประจำตัวกะทันหัน พลตำรวจเอกสุชาติชี้แจงว่า พ่อของนายมาวินให้การตามที่ชุดจับกุมบอก ซึ่งครอบครัวไม่รู้มาก่อนว่าลูกชายมีพฤติกรรม เป็นนักค้ายาเสพติด แต่หลังจากที่ ได้เห็นคลิปแล้วพ่อนายมาวินยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน
ส่วนข้อสงสัยมีบุคคลปริศนานำตัวผู้กำกับโจ้มามอบตัว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่าเป็นอดีตข้าราชการ แต่ ไม่ได้ให้ที่พักพิงหรือให้การหลบหนี อีกครั้งอดีตข้าราชการรายนี้ยังเกลี้ยกล่อมให้ผู้กำกับโจ้เข้ามอบตัวอีกด้วยจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแจ้งข้อหาเพิ่มแต่อย่างใด
ส่วนกรณีนายสิระเจนจาคะ ส.ส.พลังประชารัฐ ประธานกมธ.กฎหมายฯ เดินทางมาดูที่เกิดเหตุและพูดคุยกับตำรวจชุดจับกุมพลตำรวจเอก สุชาติบอกว่า เตรียมที่จะไปให้การที่สภาผู้แทนราษฎร เพราะไม่มีอะไรต้องปิดบัง
ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการจังหวัดนครสวรรค์เป็นคนให้คลิป กับทนายความชื่อดัง รองผบตร. ชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคลิปดังกล่าว มาก่อนหน้าที่ ทนายความจะนำมาเผยแพร่ แต่เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้ก่อเหตุรู้จึงมีความจำเป็น ที่จะต้อง เก็บไว้ก่อนเพื่อไม่ให้ ผู้ก่อเหตุ รู้ตัว


