"ดร.เอก"แนะแก้กม.เร่งผลิตยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อสู้กับโควิด

ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานกิตติมศักดิ์สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ปัจจุบันเป็นผู้ป่วยโควิด-19 รักษาตัวอยู่ในห้องความดันลบ รพ.รามาธิบดี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า #ผมคิดของผมแบบนี้ ^?^ ดร.เอก - ณพพงศ์ ธีระวร ผู้ป่วยโควิด-19 รพ.รามาธิบดี ลงวันที่ 19 ก.ค.2564 ขณะตื่นขึ้นมาวัดปริมาณ Oxygen 05.55 น. @ ห้องความดันลบ 7NE Cohort Ward

1.การจัดหา & กระจายวัคซีน :¤ รัฐต้องปรับบทบาทเป็นผู้สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนนำเข้าวัคซีน ไม่ว่าจะเป็นโมเดลของรพ.เอกชน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และอีกหลายๆโมเดล เปิดกว้างให้ทุกรายสามารถวิ่งเจรจานำเข้า ผู้นำเข้าวัคซีนต้องเป็นพระเอก สำหรับประเทศไทย ไม่ใช่ผู้ร้าย¤ เมื่อมีภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนได้หลายราย รัฐจะอยู่ในสถานะที่จัดซื้อ & จัดหาวัคซีนได้ง่ายขึ้น¤ ไม่ต้องกังวลเรื่องจำนวน & ความหลากหลายของวัคซีนจะเข้ามามากเกินไป เพราะการกลายพันธุ์ของโควิดจะทำให้เราต้องการความหลากหลาย และปริมาณของวัคซีนเพิ่มอีกมาก¤ การวางแผน & ตั้งเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้ได้ 10-15 ล้านเข็มต่อเดือน เป้านี้ห้ามลดลง ¤ เน้นฉีด Booster ให้บุคลากรทางการแพทย์ก่อน หลังจากนั้นเร่งฉีดตามยุทธศาสตร์พื้นที่ป้องกันการระบาด

2.Home & Community Isolation :¤ รัฐต้องจัดให้มีการลงทะเบียนแบบง่ายๆ เพื่อสร้างฐานข้อมูลของผู้ติดเชื้อที่ตรวจด้วยตัวเอง รัฐได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปดูแลผู้ป่วยต่อได้ ¤ รัฐต้องเร่งให้ความรู้ และกระจายการเข้าถึงเซตการปฐมพยาบาลขั้นต้นให้ผู้ป่วยโควิดที่ตรวจพบเอง ¤ รัฐดูแลค่าใช้จ่ายในการปฐมพยาบาลขั้นต้นให้ผู้ป่วยที่ลงทะเบียน และผ่านการ swab จากรพ.รายละ 7,500 บาทเป็นเวลา 1 เดือน¤ รัฐต้องดูแลสวัสดิการ เช่นอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆให้ผู้ป่วยที่ลงทะเบียน และผ่านการ swab อีกเดือนละ 7,500 บาท

3.การบริหารยาฟิวิพิราเวียร์ :¤ ปรับแก้กม.ให้สามารถเร่งผลิต & เร่งกระจายไปตามร้านขายยาทั่วประเทศ เพราะนี่อาจเป็น Game Changer ตัวใหม่ในการควบคุมความรุนแรงของอาการในผู้ป่วยหนัก รวมถึงการลดอัตราการเสียชีวิตลง

4.ทำโรงพยาบาลให้เป็นโรงพยาบาล :¤ รพ.ปรับโหมดมาเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยสีเหลือง & สีแดง รวมถึงผู้ป่วยที่โควิดลงปอดเพื่อลดอัตรการการเสียชีวิตลง¤ เปิดตรวจ swab & สร้างทีม swab เพื่อคอนเฟิร์มผู้ป่วยที่ลงทะเบียน & ที่ตรวจพบโควิดเองที่บ้าน

5.บทบาทใหม่ที่รัฐต้องทำ :¤ รัฐต้องเริ่มจัดระเบียบ & สนับสนุนงบประมาณ ในการดึงภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และสื่อมวลชนมาร่วมสู้วิกฤตในครั้งนี้¤ วิกฤตนี้ไม่ได้เป็นวิกฤตของรัฐบาล แต่เป็นวิกฤติของคนไทยทั้งประเทศ¤ ผู้นำต้องออกมาแสดงความขอโทษต่อสถานการณ์ที่รุนแรงมาไกลขนาดนี้ และขอความร่วมมือจากคนไทยให้มาร่วมกันฝ่าวิกฤตของมวลมนุษยชาติครั้งนี้ไปด้วยกัน