posttoday

ศบค.จ่อยกระดับมาตรการคุมโควิดเข้มข้นขึ้น อาจปิดกิจการเพิ่ม

16 กรกฎาคม 2564

ศบค.ประเมินผลล็อกดาวน์ 5 วัน ยังไม่ได้ผล จ่อยกระดับมาตรการคุมโควิด-19ให้เข้มขึ้นอีก อาจปิดกิจการบางอย่างเพิ่ม

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธาน ได้มอบหมายให้คณะแพทย์ไปทบทวนมาตรการด้านสาธารณสุขให้เข้มข้นขึ้น หลังจากในวันนี้ได้มีการทบทวนผลของมาตรการต่าง ๆ ที่ได้ยกระดับไปในช่วงก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการล็อกดาวน์ใน 10 จังหวัดสีแดงเข้ม เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส-19

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีการประกาศมาตรการของศบค.ไปแล้ว 5 วัน ในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ได้มีการรายงานพบว่า ประชาชนยังมีการกระทำความผิดฝ่าฝืนตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ทั้งหมด 217 ราย แบ่งเป็นฝ่าฝืนมาตรการห้ามออกนอกเคหะสถาน 158 ราย และฝ่าฝืนมาตรการห้ามรวมกลุ่มและมั่วสุม 59 ราย โดยมีการดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 45 ราย ที่เหลือเจ้าหน้าที่พยายามตักเตือนและขอความร่วมมือ นอกจากนี้ หลังจากประกาศบังคับใช้มาตรการที่ผ่านมา ยังพบว่า มีประชาชนเดินทางอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการข้ามพื้นที่ในจังหวัดเดียวกัน รวมทั้งจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดมีการเดินทางออกนอกจังหวัด ซึ่งที่ประชุมศบค.มีความเป็นห่วง สอดคล้องกับการรายงานของกรมควบคุมโรคพบว่า มีการรายงานการออกนอกเคหสถาน และพบพฤติกรรมการรวมกลุ่ม ยังพบการตั้งวงเล่นการพนัน

สำหรับมาตรการส่วนบุคคล กรมควบคุมโรครายงานว่า ยังพบการเคลื่อนย้าย การเดินทางโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่มีการเว้นระยะห่าง และยังพบว่า ประชาชนบางส่วนไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรการได้ และยังมีการแจ้งเบาะและนำไปสู่การจับกุม มีการร้องเรียนสถานประกอบการไม่ปฏิบัติตามมาตรการมากถึง 102 ข้อร้องเรียน มีการรายงานการมั่วสุมมากถึง 92 เหตุการณ์ ทำให้ มีข้อสรุปว่าเรามีความเป็นห่วง และอาจปรับมาตรการเข้มข้นขึ้นมากกว่านี้ อาจปิดกิจการบางอย่าง ให้มากขึ้นมาก ขอให้ติดตามในเร็วๆ นี้