posttoday

“สุริยะ”เร่งหาต้นเหตุเพลิงไหม้รง.ในนิคมฯลาดกระบัง

07 กรกฎาคม 2564

กนอ.รุดลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์ คุมเข้มมาตรการเฝ้าระวัง หวั่นเกิดเหตุซ้ำ พร้อมสั่งโรงงานระงับการประกอบกิจการชั่วคราว

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณีบริษัท ฟลอรอลแมนูแฟคเจอริ่ง  กรุ๊ป จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โซน 3 เขตลาดกระบัง กทม.เกิดเหตุไฟไหม้เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 ก.ค.ว่า  ได้สั่งการให้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ส่งเจ้าหน้าที่ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมดูแลผลกระทบคุณภาพชีวิตของชุมชน และผู้ประกอบการโรงงาน    ทั้งนี้ ในเวลา 14.30 นวันนี้ (7 ก.ค.64) ผู้ว่าการ กนอ.จะลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายพื้นที่ไฟไหม้อีกครั้ง.

นายวีริศ   อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า  โรงงานดังกล่าวฯ มีพื้นที่กว่า 4 ไร่ หรือ ประมาณ 7,960 ตารางเมตร มีพนักงานประมาณ 130 คน  โดยเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นบริเวณคลังเก็บสินค้า และวัตถุดิบ ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ได้ประสานไปยังสถานีดับเพลิง และนักผจญเพลิง ให้เข้าดำเนินการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน โดยสามารถควบคุมเพลิงได้ภายใน 3 ชั่วโมง (เวลา 20.13 น.)

ทั้งนี้จุดเกิดเหตุเป็นอาคาร  2 ชั้น ด้านข้างมีถังเก็บสารเคมีกลุ่มแอลกอฮอล์ ประมาณ 70,000 ลิตร โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ต้องรอให้มีการตรวจสอบรายละเอียดก่อน

ขณะที่น้ำที่ใช้ในการระงับเหตุเพลิงไหม้ กนอ.ได้ทำการปิดกั้นลำรางระบายน้ำฝนภายในและบริเวณโดยรอบโรงงาน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำที่เกิดจากการดับเพลิงรั่วไหลออกสู่ภายนอกโรงงาน และให้บริษัทฯ เร่งบำบัดให้ได้ตามมาตรฐานที่ กนอ.กำหนดต่อไป

“กนอ. สั่งให้บริษัทฯ หยุดประกอบกิจการและปรับปรุงแก้ไขโรงงาน ซึ่งหลังจากนี้บริษัทฯต้องยื่นเอกสารแสดงผลการปรับปรุงอาคารโรงงานและตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างอาคารและตรวจสอบความปลอดภัยของระบบอุปกรณ์ภายในโรงงาน ที่ต้องผ่านการรับรองจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญและจัดส่งให้ กนอ. พิจารณาตรวจสอบก่อน” นายวีริศ กล่าว

อย่างไรก็ตามภายหลังสามารถควบคุมเพลิงได้ ผู้ว่าการฯ กนอ. ได้เรียกประชุมย่อยผู้เกี่ยวข้องในทันที หลังลงพื้นที่สังเกตการณ์ พร้อมสั่งการให้เร่งทบทวนมาตรการป้องกันต่างๆ ที่เกี่ยวข้องโดยด่วน ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีกต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและเกิดความเสียหายให้น้อยที่สุด เนื่องจากสิ่งที่ดำเนินการอยู่นั้นอาจยังไม่เพียงพอกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ต้องมีการตรวจสอบด้วยว่า ยังสามารถใช้งานได้อย่างปกติ และมีเพียงพอหรือไม่ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจกับให้ชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมอีกด้วย

ข่าวล่าสุด

คดีพลิก สหรัฐฯปลดล็อกขายชิปให้จีน แต่รัฐบาลจีนอาจไม่อยากซื้อ