ครป.สับแหลกมาตรการคุมโควิดสะเปะสะปะขาดวิสัยทัศน์
เลขาครป.อัดเละมาตรการหยุดโควิดของรัฐบาลสะเปะสะปะ ขาดวิสัยทัศน์ไร้ยุทธศาสตร์ สลดใจคนล้มตายแต่นายกหัวเราร่าอยู่ในทำเนียบ ชี้เป็นแผนดันคนป่วยโควิดกลับไปต่างจังหวัดเหตุเตียงเต็ม
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และกลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย กล่าวถึงมาตรการรัฐบาลรอบใหม่ที่ห้ามนั่งกินในร้านอาหาร-ให้ซื้อกลับบ้าน ปิดแคมป์คนงานและห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัดว่า ถือเป็นมาตรการที่สะเปะสะปะ ขาดวิสัยทัศน์และไร้ยุทธศาสตร์ใดๆ เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชนระยะยาว เนื่องจากสาเหตุมาจากโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเกิดปัญหาเตียงไม่พอ คนป่วยโควิดล้นเกิน จนต้องปิดรับการคัดกรองโควิด มีการเสนอแนวคิดติดเชื้อให้กักตัวที่บ้าน และเคลียร์เตียงรับวิกฤต เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื่อยังสาหัส ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวันกว่า 4 พันราย เสียชีวิตวันนี้ถึง 42 คน
ทั้งนี้จึงเกิดมาตรการพิเศษประกาศล็อคดาวน์หลอกๆ เมื่อคืนนี้แต่มีผลวันจันทร์ เพื่อให้แรงงานที่ว่างงาน 1 เดือนอพยพกลับบ้านเกิด เพื่อกระจายผู้ป่วยออกไปไปต่างจังหวัดแก้ปัญหาเตียงล้นเกินแค่นั้น ตามที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้ให้สัมภาษณ์หลุดออกมาว่า การล็อค กทม. สามารถช่วยลดการแพร่ระบาดโควิดได้แน่นอน และแก้ไขปัญหาเตียงไม่พอ เพราะเมื่อประชาชนเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดและติดโควิดก็จะมีเตียงและการรักษาพยาบาลรองรับเพียงพอในแต่ละพื้นที่ ซึ่งก็คือไม่ได้ต้องการล็อคดาวน์จริง และปัญหาที่จะตามมาคือมาตรการนี้ทำให้เกิดการระบาดอีกรอบทั่วประเทศ แต่รัฐบาลไม่สนใจเพราะนายกและคนในรัฐบาลฉีดวัคซีนหมดแล้ว เพราะต้องการคงอำนาจพิเศษตาม พรก.ฉุกเฉินฯ ให้พล.อ.ประยุทธ์ ต่อไป
นายเมธา กล่าวว่า นี่คือผลงานของรัฐบาลที่อัปยศที่สุดในประวัติศาสตร์ การสั่งปิดร้านอาหารโดยห้ามนั่งกินก็เหมือนการสั่งให้ธุรกิจร้านอาหารล้มละลายทั้งระบบ โดยรัฐบาลไม่เข้าใจว่า ห่วงโซ่ธุรกิจอาหารเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานล่างของสังคมทั้งระบบ ตั้งแต่เกษตรกรปลูกฝัก ปศุสัตว์ มาแม่ค้าตลาดสด ระบบโลจิสติกส์ และแรงงานนอกระบบ คนทำงานหาเช้ากินค่ำ แรงงานบริการ นักร้อง นักดนตรี ได้รับผลกระทบทันทีหลายล้านคน เป็นห่วงโซ่ผลกระทบที่รุนแรง เพราะคนเหล่านี้บ้างเป็นแรงงานรายวัน บ้างเป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่มีเงินมากพอที่จะใช้ต่อลมหายใจรายวันและรายเดือนได้ และปัญหาต่างๆ ก็จะตามมาหลังพวกเขาตกงาน คนไม่มีบ้านไม่มีหลังพิงที่ต่างจังหวัด ไม่จบชีวิตด้วยความตายก็เกิดอาชญากรรม มาตรการดังกล่าวจึงไม่ต่างจากฆาตรกร
"นี่คือความอดสูของประชาชนที่สุดทนที่จะกล้ำกลืนอีกต่อไปแล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นโดยตลอดที่ผ่านมาแม้มีการปิดร้านอาหาร แสดงว่าไม่ใช่ความผิดของร้านอาหาร และนักร้องนักดนตรีคนทำงานกลางคืนไม่ใช่เหยื่อ แต่คือผลงานความไร้ฝีมือของผู้นำประเทศที่ควรรับผิดชอบผลงานที่ล้มเหลวด้วยการลาออกในทันที ทำไมรัฐบาลไม่เคยทบทวนเรื่องนี้ แม้ใช้อำนาจตาม พรก.ฉุกเฉินฯ ที่มีอำนาจครอบจักรวาลก็แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะผู้นำประเทศไม่มีภาวะผู้นำที่จะแก้ปัญหาฝ่าวิกฤตไปได้ แต่หลงตนเองคิดว่าเก่งอยู่แต่เพียงผู้เดียว"นายเมธากล่าว
อย่าไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลเจือจานช่วยเหลือเยียวยาพวกเขาแค่นิดเดียว เหมือนกับตั้งใจทำให้จนแล้วแจก แต่นโยบายเงินผันไม่เพียงพอต่อความเดือดร้อนและการอยู่รอด คนฆ่าตัวตายรายวันจึงเกิดขึ้นมากมาย ผมสงสารน้องนิสิตจุฬาฯ ที่โดดตึกตายและน้องประกายฟ้า นักร้องกลางคืนที่ตัดสินใจจบชีวิตรายล่าสุด เขาต้องกลายมาเป็นเหยื่อของการบริหารบ้านเมืองที่ล้มเหลวและผิดพลาดอย่างร้ายแรงของพล.อ.ประยุทธ์ ที่แก้ปัญหาแบบสุกเอาเผากิน ท่านไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของประชาชนใช่ไหม ขณะที่คนตกงานและฆ่าตัวตายรายวัน ท่ามกลางน้ำตาและความทุกข์ยากของประชาชน แต่พล.อ.ประยุทธ์ และพวก หัวเราะร่าอยู่ในทำเนียบรัฐบาล


