posttoday

"บิ๊กปั๊ด"สั่งตร.ห้ามละเลยคุมเข้มโควิดพบบกพร่องฟันวินัยอาญา

27 มิถุนายน 2564

ผบ.ตร.สั่งตำรวจทุกสังกัดประสานหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ออกตรวจตราแคมป์คนงานสถานที่เสี่ยงเพื่อหยุดการระบาดโควิด หากละเลยบกพร่องต่อหน้าที่ถูกฟันวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 25) มีผล 28 มิ.ย.64  โดยกำหนดพื้นที่ 10 จังหวัด เป้าหมายเฉพาะในเขตพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล(นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร) และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้(นราธิวาส  ปัตตานี  ยะลา สงขลา) เพื่อชะลอและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเร่งด่วน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้กำชับการปฎิบัติของหน่วยงานความมั่นคง สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและจริงจัง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ได้กำชับหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ทุกพื้นที่ให้ประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานทหาร สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และหน่วยที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนกำลังเมื่อมีการร้องขอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตามประกาศข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548(ฉบับที่ 25) การควบคุมการปิดแคมป์แรงงานก่อสร้าง สถานประกอบการ โรงงานในเขต กทม. และปริมณฑล การตั้งจุดตรวจ จุดสกัดกับหน่วยร่วมปฏิบัติ เพื่อคัดกรองการเดินทางตามเงื่อนไขที่ ศบค.กำหนด ในเส้นทางเข้า-ออก จังหวัดชายแดนใต้, กทม. และปริมณฑล และเส้นทางเข้า-ออกจังหวัดอื่นๆ รวมถึงตรวจสอบสถานประกอบการ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าต่างๆ ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ประกาศ ข้อกำหนดของ ศบค. และคำสั่งจังหวัดที่เกี่ยวข้อง อย่างเคร่งครัด พร้อมเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงต่างๆ

รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผบ.ตร.ยังได้กำชับให้ ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ฝ่ายปกครอง หน่วยสาธารณะสุข และหน่วยที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด สนับสนุนกำลังพลในการปฎิบัติภารกิจเมื่อมีการร้องขอ ควบคุมการปิดแคมป์แรงงานและจำกัดพื้นที่การเคลื่อนย้ายแรงงาน อย่างน้อย 30 วัน (เฉพาะ กทม. และปริมณฑล) ออกตรวจสอบการจำหน่ายอาหารหรือของร้านอาหารต่างๆ  การเปิด-ปิดห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้า ตามเวลาที่กำหนด การห้ามจัดกิจกรรมต่างๆ ตามเงื่อนไขที่ ศบค. และคำสั่งของจังหวัดที่เกี่ยวข้องได้กำหนด หากพื้นที่ใดมีการปล่อยปละละเลย ก็จะพิจารณาความบกพร่องทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดต่อไป นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูล มายังหมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชม.