posttoday

ทส.TGO ผนึกกำลังUNDPและสถ.หาทางลดคาร์บอนต่ำ

23 มิถุนายน 2564

ทส. TGO ผนึกกำลังกับ UNDP และ สถ.เสนอการพัฒนาเมืองคาร์บอนต่ำผ่านระบบการจัดการเมืองและสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชนลดโลกร้อนยั่งยืน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงานและร่วมในงานสัมนา และเผยแพร่แนวคิด “เมืองคาร์บอนต่ำ สุขอาศัยอย่างยั่งยืน” (Sustainable & Livable Low-carbon Cities) ซึ่งจัดโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO ในรูปแบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 21-22 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00-12.00 น. ผ่าน https://www.facebook.com/tgo.or.th เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาเมืองคาร์บอนต่ำผ่านระบบการจัดการเมืองอย่างยั่งยืน ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ เพื่อขยายผลและต่อยอดสู่การเป็นเมืองและสังคมคาร์บอนต่ำ โดยมี Mr.Renaud Meyer Resident Representative: UNDP Thailand นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และนายเกียรติชาย ไมตรีวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกและมีผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ มาร่วมเป็นวิทยากรแลกเปลี่ยนแนวคิด มุมมอง ให้ความรู้ และร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ทั้งนี้ มีประเด็นเสวนาที่น่าสนใจ เช่น

หัวข้อ “สร้างเมืองคาร์บอนต่ำไม่ยากอย่างที่คิด” เป็นนำเสนอผลการปฏิบัติที่ดีด้านการพัฒนาเมืองและสังคมคาร์บอนต่ำ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเมืองนำร่องต้นแบบทั้ง 4 เมือง ได้แก่ เทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลนครนครราชสีมา เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลนครเกาะสมุย และมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของตนเอง รวมทั้งขยายวงการมีส่วนร่วมไปยังชุมชนด้วยกระบวนการเรียนรู้และการจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ ตลอดจนจุดประกายการพัฒนาไปสู่สังคมเมืองคาร์บอนต่ำแก่เมืองอื่นๆ ต่อไป

หัวข้อ “เศรษฐกิจหมุนเวียนในท้องถิ่น เพื่อลดโลกร้อนอย่างยั่งยืน” เป็นการนำเสนอแนวทางขับเคลื่อนและการนำแนวคิดเศรฐกิจหมุนเวียนไปประยุกต์ใช้ ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ท้องถิ่นควรดำเนินการ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดงบประมาณ และเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการแล้ว ยังช่วยโลกประหยัดทรัพยากร ลดขยะ และลดโลกร้อน ช่วยเพิ่มความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อมและกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

หัวข้อ “คาร์บอนเครดิต พิชิตโลกร้อน” โดยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดทำโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเกิดผลประโยชน์ร่วม (Co-benefit) ของการลดก๊าซเรือนกระจก เช่น ช่วยลดมลพิษ เพิ่มความร่มรื่น และพื้นที่สีเขียวลดการใช้พลังงานและค่าไฟฟ้า สนับสนุนเศรษฐกิจในชุมชนและอื่นๆ รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาอาชีพใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และยังต่อยอดการสร้างมูลค่าเพิ่มจากคาร์บอนเครดิตของโครงการ T-VER ในประเทศ ผ่านตลาดซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตซึ่งเป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชน

ข่าวล่าสุด

ดีอี เตือนภัย ประชาชน เตรียมรับมือ 4 เทรนด์สแกมเมอร์ ปี 69