สตม.ทลายแก๊งแอปฯนายทุนจีนปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด
สตม.ทลายแก๊งแอปพลิเคชัน เงินกู้ดอกเบี้ยโหด จ.นนทบุรี พบเบื้องหลังเป็นนายทุนจีน ตะลึงยอดลูกหนี้กว่า 70,000 ราย
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ลงตรงจที่เกิดเหตุด้วยตัวเองเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ หลังจาก พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สตม. (ผบก.สส.สตม.) และ พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สตม. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จํานวน 2 ราย Mr.Lian BinBin สัญชาติจีน และ น.ส.ณัฐชุตา กุลเชษฐ์ ชาวไทย ข้อหา “ร่วมกันประกอบกิจการทวงถามหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต”
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ในช่วงเดือน พ.ค. - มิ.ย.64 ที่ผ่านมา ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ได้กู้เงินนอกระบบจากแอปพลิเคชั่น ที่โฆษณาตามสื่อออนไลน์ต่างๆ เบื้องต้นพบมี 6 แอปพลิเคชั่น ดังนี้
1.แมวกวัก 2.Tiktak 3.Ubaht 4.Cashdaddy 5.เต่ามงคล และ 6.ถุงเงิน พฤติการณ์คือ เมื่อประชาชนตกลงกู้เงิน จะต้องทำการส่งข้อมูลส่วนตัวพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ให้กับทางแอปฯดังกล่าว ยอดเงินกู้ เริ่มตั้งแต่ 2,500-10,000 บาท ซึ่งจะคิดหักค่าธรรมเนียมประมาณ 30-42% ให้เวลาคืน 7 วัน เกินวันแรกดอกเบี้ย+ค่าปรับ 12% วันถัดไปวันละ 5% หากไม่ชำระตามที่กำหนด จะถูกเจ้าหน้าที่โทรตามทวงหนี้ หรือโทรหาญาติพี่น้อง หรือคนรู้จัก เพื่อให้เกิดความอับอาย ซึ่งปัจจุบันมีประชาชนตกเป็นผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งมีบางรายถูกโทรข่มขู่ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งต่อมาศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองคนไว้เพราะพบว่ามีเหยื่อกว่า 70,000 ราย
ต่อมาวันนี้(18 มิ.ย.64) ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.อ.ชย จึงได้ขออนุมัติหมายศาลเข้าทำการตรวจค้น 2 จุด คือ จุดที่ 1 บ้านเลขที่ 30 ซอยหมู่บ้านจันทิมา ธานี 2 แขวงบางรักพัฒนา เขตบางบัวทอง จ.นนทบุรี จับกุม Mr.Lian BinBin สัญชาติจีน ตามหมายจับ ที่ 516/2564 ข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการทวงหนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจค้น พบสมุดบัญชี 15 เล่ม , บัตรกดเงิน 10 ใบ และโทรศัพมือถือ 13 เครื่อง จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 13 ซอยรัตนาธิเบศร์ 30 ต.บางกระสอ อ.เมือง จว.นนทบุรี จับกุม น.ส.ณัฐชุตา กุลเชษฐ์ ตามหมายจับ ศาลอาญา กรุงเทพใต้ ที่ จ 299/2564 ข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการทวงหนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจ ค้นพบ คอมพิวเตอร์/โน้ตบุ๊ก , โทรศัพท์ อย่างละประมาณกว่า 100 เครื่อง ซึ่งภายในอาคารดังกล่าว มีกลุ่มบุคคลยอมรับว่าเป็นพนักงานโทรทวงหนี้ รวมจำนวน 66 คน (บริเวณชั้นสอง จำนวน 16 คน , ชั้นสาม จำนวน 27 คน และชั้นสี่จำนวน 23 คน)
“สตม. จะได้ประสานกับศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติในการสืบสวนสอบสวนขยายผลผู้เกี่ยวข้องในความผิด ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลังเป็นตามการค้าปกติ และ ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกําหนดไว้ต่อไป” ผบช.สตม. กล่าวและว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือที่หมายเลขโท รศัพ ท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th.