posttoday

สธ.เปิดแผนฉีดวัคซีนมิ.ย.ทุกพื้นที่6ล้านโดส

02 มิถุนายน 2564

ผ.อ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติมั่นใจวัคซีนมาตามนัดปี64เป้า100ล้านโดสยัน7มิ.ย.ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเป็นหลัก

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ในการแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์ บรรยายเรื่อง การกระจายวัคซีนในประเทศไทย โดย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่อทำความเข้าใจในประเด็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของประเทศไทย นั้น

นพ.นคร กล่าวว่า ที่ผ่านมา การจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของประเทศไทย สถาบันวัคซีนฯ กรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ร่วมกันจัดหาวัคซีนซิโนแวค โดยกระจายไปตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมา และมีการเจรจาสั่งซื้อเพิ่มเติมต่อไปอีกตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน ในวันนี้ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ก็ได้ส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ดังนั้น จะมีวัคซีนแอสตร้าฯ ทยอยเข้ามา และกระจายออกไปยังจังหวัดต่างๆ ตามแผน

ทั้งนี้ วัคซีนแอสตร้าฯ ที่สั่งซื้อไว้ราว 61 ล้านโดส ขึ้นอยู่กับบริษัทจะจัดการส่งมอบให้ แต่เชื่อว่าเกือบทั้งหมดมาจากไซต์การผลิตในประเทศไทย เพราะข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับแอสตร้าฯ ไม่ได้จำกัดว่า ต้องเป็นวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยเท่านั้น ทั้งนี้ ก็เพื่อความยืดหยุ่นในการรับวัคซีนจากทุกแหล่งผลิตของบริษัท แอสตร้าฯ เพราะเราเจาะจงจากแหล่งใดแหล่งหนึ่ง ขาดความยืดหยุ่น ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนก็จะไม่เป็นผลดี

สำหรับการจัดหาวัคซีนชนิดอื่นๆ ตามนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) ที่หารือร่วมกับคณะกรรมการวิชาการ สธ.เพื่อจัดหาวัคซีนในเป้าหมายปี 2564 รวม 100 ล้านโดส โดยขณะนี้จัดหาแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ วัคซีนซิโนแวค ส่งมอบแล้ว 6 ล้านโดส ตั้งแต่เดือนก.พ.-พ.ค.และจะมีเป้าหมายอีก 10-15 ล้านโดส ซึ่งจะทยอยส่งมอบเดือนละ 2-3 ล้านโดส ในเดือนมิ.ย.เป็นต้นไป

ขณะที่วัคซีนแอสตร้าฯ อีก 61 ล้านโดส ที่จะทยอยส่งมอบเช่นกัน ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ กับ วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน อยู่ในขั้นตอนเดียวกันคือ การเจรจาเงื่อนไขสัญญา แต่จำนวนที่สั่งซื้อวัคซีนเป็นไปตามเป้าหมายที่ผู้ผลิตจะจัดหาวัคซีนให้ได้

“ไม่ได้เป็นตัวเลขที่เราอยากไป แต่เป็นตัวเลขมากที่สุดที่เขาจะจัดการให้เราได้ในปี 2564 โดยไฟเซอร์ จะสามารถส่งให้เราได้ในไตรมาส 3 ราว 20 ล้านโดส และ จอห์นสันฯ จะส่งให้เราช่วงปลายไตรมาส 3 หรือ 4 ราว 5 ล้านโดส ขณะนี้รวมที่เรามีวัคซีนแล้ว คือ วัคซีนแอสตร้าฯ 61 ล้านโดส วัคซีนซิโนแวคอีก 6 ล้านโดสที่ส่งมอบแล้ว และที่จัดหาจากผู้ผลิตอื่น คือ วัคซีนซิโนแวค 15 ล้านโดส วัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส วัคซีนจอห์นสันฯ อีก 5 ล้านโดส ดังนั้นปี 2564 ก็จะมีวัคซีนราวๆ 100 ล้านโดส” นพ.นคร กล่าว

ด้าน นพ.โสภณ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลไทย คือ ให้คนไทย คนชาติต่างๆ ในประเทศเข้าถึงวัคซีนได้ ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.เราก็ได้ฉีดวัคซีนกันมาเรื่อยๆ เพียงแต่วันที่ 7 มิ.ย.นี้จะ เป็นวันที่จะมีการเริ่มต้นฉีดจำนวนมากในทุกพื้นที่ ดังนั้น การเตรียมการสำหรับวันคิกออฟ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะเป็นที่สถานีกลางบางซื่อ ส่วนต่างจังหวัด จะเริ่มในโรงพยาบาล (รพ.) ประจำจังหวัด รพ.ประจำอำเภอ รพ.เอกชน และ รพ.รัฐในสังกัด

ในขณะที่การฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ ที่ได้ทดสอบระบบตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 7 มิ.ย.นี้ ก็จะเริ่มในกลุ่มที่ 2 สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่จองคิวฉีดเข้ามาในระบบหมอพร้อมและแพลตฟอร์มอื่นๆ

นพ.โสภณ กล่าวว่า ประชาชนผู้ที่จองผ่านหมอพร้อม ในวันที่ 7 มิ.ย. จะได้ฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ เป็นหลัก แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อบ่งชี้ทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยเราได้รับการส่งมอบเป็นระยะ ก็จะมีการกระจายออกไปเป็นระยะเช่นกัน ดังนั้น กรุงเทพฯ ก็จะได้สัดส่วนที่สูงกว่าจังหวัดอื่น เนื่องจากจำนวนประชากรและการระบาดที่มากกว่า คาดว่าล็อตแรกจะส่งไปเกือบ 1 ล้านโดส จากทั้งแอส ตร้าฯ และซิโนแวค ดังนั้นใน 2 สัปดาห์แรก ประมาณ 5 แสนโดส

“การฉีดวัคซีนในวันดังกล่าว จะช่วยให้เราเห็นการเข้าถึงวัคซีนในกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่ม ชัดเจนว่า มีกี่คนในวันดังกล่าว ซึ่งคาดว่า จะมีหลายแสนคนทั่วประเทศ พร้อมติดตามอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีด มีทั้งที่เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับวีคซีนโดยตรง ทั้งนี้ ทุก รพ. ก็จะทยอยรับวัคซีนไปเตรียมการเพื่อเริ่มคิกออฟ โดยจะมีการนำเสนอรายละเอียดเพิ่มเติมเป็นระยะ” นพ.โสภณ กล่าว

นพ.โสภณ กล่าวว่า จำนวนวัคซีนที่ประเทศไทยจะได้รับจากบริษัทผู้ผลิต จะเป็นงวดๆ โดยในเดือนมิถุนายน จะแบ่งเป็น 4 งวด เฉพาะสัปดาห์นี้ วัคซีนแอสตร้า ได้รับแล้ว 2.4 แสนโดส และในช่วงท้ายสัปดาห์ จะได้รับราวๆ กว่า 1 ล้านโดส ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (3 มิ.ย.2564) จะมีการส่งวัคซีนซิโนแวค อีก 7 แสนโดส ดังนั้น ในช่วงสัปดาห์นี้ เราจะได้รับวัคซีนราว 2 ล้านโดส และตลอดเดือนมิถุนายน ได้รับจัดสรรเพิ่ม โดยจะมีการกระจายไป รพ.ต่างๆ 5-6 ล้านโดส ดังนั้น ทุกพื้นที่จะมีวัคซีนฉีดในเดือนมิ.ย.นี้

อย่างไรก็ตามการกระจายวัคซีนจะคำนึง 2 ส่วน คือ 1.ประโยชน์ในการป้องกันโรคในระดับบุคคล 2.การสร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มประชากรในพื้นที่ระบาด เพื่อประโยชน์ของประชากรหลายคน ดังนั้น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทั้ง 2 ข้อ ในพื้นที่ระบาดก็จะได้รับการจัดสรรวัคซีนที่สูง เพื่อป้องกันพื้นที่ที่ยังไม่มีการระบาด โดยคาดว่าประมาณ 4-6 เดือน ทุกพื้นที่จะได้รับวัคซีนครบทุกคน โดยจะเริ่มจากกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เพื่อลดการเจ็บป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต

สำหรับแผนการฉีดวัคซีนสำหรับชาวต่างชาติ ได้เริ่มดำเนินการในกลุ่มคณะทูต และครอบครัว เจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศ (ยูเอ็น) ที่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้า และฉีดใน รพ.ที่กำหนด เบื้องต้นมี 3 แห่ง และจะเพิ่มเติมมากขึ้นในสัปดาห์หน้า สำหรับชาวต่างชาติทั่วไป ก็จะเริ่มลงทะเบียนเพื่อฉีดได้เช่นเดียวกับคนไทย โดยจะเริ่มใน 2 กลุ่มคือ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง สามารถลงทะเบียนล่วงหน้า ได้ในเว็บไซต์ www.thailandIntervac.com

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สปสช. มีบทบาทในการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฉีด ทั้งในการฉีดนอก รพ. ที่มีจำนวนมาก พร้อมจัดสรรงบประมาณดูแลอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีน ดังนั้น ผู้ที่สงสัยว่าตนเองเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีด สามารถแจ้งกับสถานบริการที่ไปฉีดได้ โดยไม่มีข้อกำหนด เพื่อสร้างความมั่นใจในการฉีดวัคซีนที่จะเกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งนี้ สปสช.จะมีอนุกรรมการพิจารณา ชดเชยอาการไม่พึงประสงค์หลังวรับวัคซีน ทำให้ประชาชนไม่ต้องรอจนถึงขั้นตอนสุดท้าย และต้องย้ำว่า วัคซีนที่ฉีดทั่วโลกในปัจจุบัน เป็นการฉีดในสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงขอให้ประชาชนอย่ารีรอที่จะพบแพทย์

“การจ่ายค่าชดเชยนั้น สปสช. ไม่ได้ผูกกับประกันของบริษัทเอกชน ดังนั้น สำหรับคนไทย เราไม่ได้คำนึงว่า ผู้ที่มีประกันจากเอกชนแล้วเราจะละเลย เพราะทุกคนสามารถยื่นเรื่องได้เหมือนกันหมดทุกคน” นพ.จเด็จ กล่าว