posttoday

กทม.พบคลัสเตอร์ใหม่ ห้างย่านลาดพร้าว ขู่ฟันโรงงานไม่ปฏิบัติตามกฎทำโควิดระบาด

02 มิถุนายน 2564

ศบค.รายงาน พบคลัสเตอร์ใหม่ในกทม. เป็นห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขตลาดพร้าว พบ ติดเชื้อแล้ว 23 ราย ขู่ฟันโรงงานไม่ปฏิบัติตามกฎ ทำโควิด-19 แพร่ระบาด

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 64 พ.ญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กล่าวระหว่างแถลงสถานการณ์ประจำวันว่า สถานการณ์โควิด-19 กทม. ปริมณฑลยังสูง โดยจ.สมุทรปราการ ยังคงพบที่คลัสเตอร์ตลาดสำโรง 186 ราย, โรงงานผลิต/จำหน่ายซอส, คลัสเตอร์ใหม่ที่โรงน้ำแข็งเพิ่มอีก 74 ราย, เคหะบางพลี จ.เพชรบุรี ยังคงเป็นคลัสเตอร์โรงงานแคลคอมพ์ พบกระจายไป 11 จังหวัด จ.ตรัง คลัสเตอร์ โรงงานถุงมือยาง จ.สมุทรสาคร พบคลัสเตอร์ใหม่โรงงานผลิตสินค้าเด็ก จ.นราธิวาส พบในชุมชน ส่วนจ.พระนครศรีอยุธยาอยุธยา พบคลัสเตอร์ใหม่ ในโรงงานผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยยังคงมีการติดตามค้นหาเชิงรุกต่อเนื่องในโรงงานและชุมชนใกล้เคียง

ส่วนคลัสเตอร์ ใน กทม.อัพเดต มีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวัง จำนวน 48 แห่ง โดยเพิ่มขึ้นมาใหม่อีก 1 แห่ง คือ เขตลาดพร้าว เป็นห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ตรวจพบเชื้อเพิ่ม 23 ราย และ ลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกต่อไป

กทม.พบคลัสเตอร์ใหม่ ห้างย่านลาดพร้าว ขู่ฟันโรงงานไม่ปฏิบัติตามกฎทำโควิดระบาด

ส่วนกรณีโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ที่จังหวัดสระบุรี การรายงานของโรงงานแรกเป็นโรงงานชำแหละไก่ซึ่งทางกรมควบคุมโรครายงานว่ามีพนักงานจำนวนมากทั้งชาวไทย 4,000 คน และแรงงานต่างด้าวกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา การติดเชื้อหลากหลาย ทั้งติดเชื้อในแผนก พนักงานที่ทำงานแปรรูปพนักงานแปรรูปชิ้นไก่ พนักงานเตรียมวัตถุดิบ พนักงานสนับสนุน จากการวิเคราะห์ หากเป็นแรงงานกัมพูชา จะพักอาศัยในหอพัก ค่อนข้างแออัด บ้านหอพัก 1 ห้องอาศัยอยู่ 6 คน ส่วนคนไทยจะอาศัยอยู่ที่บ้านพักของตัวเอง ขณะที่แรงงานฝีมือ หรือรายงานช่าง พบการติดเชื้อน้อย เนื่องจากมีมาตรการส่วนตัวที่เข้มข้น แม้จะอาศัยอยู่ในกลุ่มที่มีการติดเชื้อ ทำให้ ศบค. มีการทบทวนมาตรการ ในสถานประกอบการ

กรมอนามัย ได้รายงานการประชุม ศปก.ศบค. เกี่ยวกับสถานประกอบการ ว่า เพื่อหามาตรการป้องกันการติดเชื้อในโรงงาน ลดความรุนแรงของการแพร่ระบาด ไม่ให้แพร่กระจายไปสู่ชุมชนในวงกว้าง ต้องการให้มีการปกป้องเศรษฐกิจและสังคม ให้ดำเนินกิจการได้แม้มีการแพร่ระบาด โดยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาพบ 10 จังหวัด มีการติดเชื้อในโรงงาน มีความแออัดของคนงานและสถานประกอบการที่อากาศไม่ถ่ายเท มีจุดสัมผัสไม่สะอาด รวมทั้งมีพฤติกรรมในการทำกิจกรรมร่วมกัน โดยพบว่าโรงงานขนาดใหญ่มีผู้ติดเชื้อถึงร้อยละ 20

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กรมอนามัย ยังรณรงค์ให้ใช้มาตรการ Thai stop service plus ให้โรงงานหรือสถานประกอบการประเมินตนเองและการประเมินตนเองตามมาตรฐานของ กระทรวงอุตสาหกรรม IPHA เพื่อให้โรงงานสถานประกอบการเรียนรู้เพื่อการป้องกันโรคการสอบสวนโรค รวมทั้งการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม หรือมาตรการเสริม หากพบผู้ติดเชื้อในโรงงาน หรือในแผนกจะต้องทำอย่างไร ตลอดจนคำแนะนำในการกักตัว ซึ่งมีการแปลข้อมูลออกเป็นหลายภาษา ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษและภาษาเมียนมา โดยเฉพาะโรงงานที่มีการติดเชื้ออยากให้เข้าไปทำแบบประเมินโรงงานนี้ แต่พบว่าโรงงานขนาดใหญ่กว่า 3,300 โรงงาน เข้าไปทำแบบประเมินเพียง 650 โรงงาน /ดังนั้นภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2564 โรงงานขนาดใหญ่ ที่มีรายชื่ออยู่ในกระทรวงอุตสาหกรรม 100% จะต้องเข้าไปประเมินตนเองให้ครบถ้วน จะเลือกทำบางส่วนไม่ได้ หากประเมินแล้วไม่ผ่านเกณฑ์จะมีทีมลงพื้นที่ไปกำกับติดตาม หากสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม จะหาทางช่วยเหลือเพื่อให้การแพร่ระบาดลดลงและให้กิจการดำเนินต่อไปได้ หากโรงงานใดไม่ให้ความร่วมมือ จะมีการพิจารณาบทลงโทษต่อไป

กทม.พบคลัสเตอร์ใหม่ ห้างย่านลาดพร้าว ขู่ฟันโรงงานไม่ปฏิบัติตามกฎทำโควิดระบาด

กทม.พบคลัสเตอร์ใหม่ ห้างย่านลาดพร้าว ขู่ฟันโรงงานไม่ปฏิบัติตามกฎทำโควิดระบาด