posttoday

โพลชี้โควิดระบาดรอบ3 คนกลัวมากขึ้น-ไม่พอใจรัฐบาลเพิ่ม

01 มิถุนายน 2564

นิด้าโพลเผยผลสำรวจความเห็นประชาชนหลังโควิดระบาดรอบ3 พบกลุ่มกลัวการติดเชื้อมาและกลุ่มไม่พอใจการแก้ปัญหาของรัฐบาลมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ขณะที่ 62.04% ระบุจะรับบริการฉีดวัคซีนฟรีจากรัฐบาล

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “COVID-19 รอบ 3” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17 – 19 และ 27 – 28 พฤษภาคม 2564 จากประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,312 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 รอบ 3

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความกลัวของประชาชนว่าจะติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากการแพร่ระบาดในขณะนี้ พบว่า

ร้อยละ 32.09 ระบุว่า มีความกลัวมาก เพราะ เชื้อไวรัส COVID-19 มีการเเพร่กระจายอย่างรวดเร็วมาก จำนวนผู้ติดเชื้อมีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อง่าย

ร้อยละ 37.96 ระบุว่า ค่อนข้างมีความกลัว เพราะ ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 มีจำนวนมากกว่ารอบที่แล้ว จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานต้องเจอกับผู้คนจำนวนมาก และอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

ร้อยละ 17.00 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความกลัว เพราะ ประชาชนส่วนใหญ่ดูแลและป้องกันตนเองดี ไม่ไปพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง และได้ทำการจองการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว

ร้อยละ 12.95 ระบุว่า ไม่มีความกลัวเลย เพราะ ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แต่ที่พักอาศัย ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และประชาชนบางส่วนได้รับวัคซีนป้องกันแล้ว

เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ COVID-19 รอบใหม่ เดือนกุมภาพันธ์ 2564 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า ไม่ค่อยมีความกลัว และไม่มีความกลัวเลย มีสัดส่วนลดลง ซึ่งในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า มีความกลัวมาก มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น

ด้านความพึงพอใจของประชาชนต่อการดำเนินการของรัฐบาล ตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง พฤษภาคม 2564 ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 รอบ 3 พบว่า

ร้อยละ 12.20 ระบุว่า พอใจมาก เพราะ รัฐบาลตั้งใจทำงานและดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ และมีนโยบายที่ดีเพื่อช่วยเหลือประชาชน

ร้อยละ 33.31 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ เพราะ เข้าใจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ว่าเป็นทั่วโลก มีการจัดหาวัคซีนมาให้กับประชาชน และรัฐบาลพยายามทำงานเต็มที่แล้ว

ร้อยละ 30.49 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ เพราะ มีมาตรการการป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ล่าช้า การสื่อสารกับประชาชนได้ไม่ดีทำให้ประชาชนส่วนมากยังไม่เข้าใจมาตรการต่าง ๆ และ การจัดหาวัคซีนมีความล่าช้ามาก

ร้อยละ 22.56 ระบุว่า ไม่พอใจเลย เพราะ การให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนสร้างความสับสนให้กับประชาชน มาตรการการป้องกันไม่เข้มงวดเท่ากับรอบก่อน การบริหารจัดการวัคซีนมีความล่าช้า และไม่สามารถเลือกวัคซีนเองได้

ร้อยละ 1.44 ระบุว่า ไม่ทราบ/ ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ COVID-19 รอบใหม่ เดือนกุมภาพันธ์ 2564 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า พอใจมาก และค่อนข้างพอใจ มีสัดส่วนลดลง ซึ่งในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ และไม่พอใจเลย มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น

สำหรับการตัดสินใจของประชาชนเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 พบว่า

ร้อยละ 62.04 ระบุว่า จะรับบริการฉีดวัคซีนฟรีจากรัฐบาล

ร้อยละ 17.99 ระบุว่า จะไม่ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19

ร้อยละ 15.93 ระบุว่า จะยอมเสียเงินเองในการฉีดวัคซีนตามโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการอนุญาตจากรัฐ

ร้อยละ 3.73 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ

ร้อยละ 0.31 ระบุว่า จะไปฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 ในต่างประเทศ

เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ COVID-19 รอบใหม่ เดือนกุมภาพันธ์ 2564 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า จะรับบริการฉีดวัคซีนฟรีจากรัฐบาล และจะไม่ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 มีสัดส่วนลดลง ซึ่งในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า จะยอมเสียเงินเอง ในการฉีดวัคซีนตามโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการอนุญาตจากรัฐ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงยี่ห้อวัคซีนที่ประชาชนต้องการหากต้องฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 30.71 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ รองลงมา ร้อยละ 20.58 ระบุว่า แอสตร้าเซนเนก้า ร้อยละ 19.05 ระบุว่า ซิโนแวค ร้อยละ 14.56 ระบุว่า ไฟเซอร์ ร้อยละ 4.57 ระบุว่า โมเดอร์นา ร้อยละ 3.13 ระบุว่า จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ร้อยละ 0.46 ระบุว่า สปุตนิก วี และร้อยละ 6.94 ระบุว่า ยังไงก็จะไม่ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19

โพลชี้โควิดระบาดรอบ3 คนกลัวมากขึ้น-ไม่พอใจรัฐบาลเพิ่ม