posttoday

"สนธิญา" ร้องกองปราบฯ จี้ “พิมรี่พาย” แจง 4 ประเด็น ลั่นไม่ได้รังแกผู้หญิง

25 พฤษภาคม 2564

"สนธิญา" จี้ "พิมรี่พาย" แจง 4 ประเด็นถูกคุกคาม-ขายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ปัดเอี่ยวปมขอโทษ "ทักษิณ" ยันไม่มีเรื่องการเมือง

วันที่ 25 พ.ค. นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน (สภาผู้แทนราษฎร) เข้ายื่นหนังสือถึง สำนักงานผู้บังคับการกองปราบ เพื่อขอให้ตรวจสอบการประกอบกิจการของ น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือพิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดังหลังสงสัยว่าสินค้าที่นำมาจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์นั้นเป็นสินค้าไม่ได้มาตรฐาน นายสนธิญา กล่าวว่า หลัง น.ส.พิมรดาภรณ์ หรือ พิมรี่พาย ยอมออกมาขอโทษ ดร.ทักษิณ ผ่านเฟซบุ๊ก จากการที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อว่า ดร.ทักษิณ กรณีถูกนำไปพาดพิงเปรียบเทียบกับรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องการช่วยเหลือประชาชนหรือสังคม ทำให้ตนเองเกิดความเคลือบแคลงตั้งประเด็นข้อสงสัยในพฤติกรรมของน.ส.พิมรดาภรณ์ จึงอยากให้ออกมาตอบคำถามประชาชนให้ได้ 4 ประเด็นคือ 1.นำของไปบริจาคสองแสนบาท แต่หน่วยงานไม่รับบริจาค จึงอยากถามว่าหน่วยงานที่ไม่รับคือรัฐหรือเอกชน และไม่รับเพราะเหตุใด 2.การที่บอกว่าถูกข่มขู่ คุกคาม ถูกคุกคามประเด็นใด ข่วยชี้แจงให้ชัดเจน ตนเองจะได้เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งกรณีนี้สามารถมาแจ้งความ หรือให้ตนนำเรื่องเข้ากรรมาธิการได้ 3.การดำเนินธุรกิจของน.ส.พิมรดาภรณ์ ได้จ่ายภาษีให้กับทางราชการหรือไม่ ตนยังได้สอบถามไปถึงเฟซบุ๊กประเทศไทยด้วย ว่าร้านค้าออนไลน์อื่นๆ จ่ายภาษีหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีการค้าขายออนไลน์จำนวนมาก และ 4.เงินที่บริจาคมาจากส่วนไหน จากกำไร หรือการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้เพื่อเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ความถูกต้อง ความเป็นธรรม และเป็นระเบียบการปฏิบัติต่อไปของธุรกิจออนไลน์

ทั้งนี้ นายสนธิญายังกล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2563 โกดังของน.ส.พิมรดาภรณ์ ถูกตำรวจ ปคบ. เข้าไปตรวจสอบก่อนพบเครื่องสำอางไม่ได้คุณภาพ ซึ่งตัว น.ส.พิมรดาภรณ์ เองก็ยังออกมายอมรับว่าเครื่องสำอางไม่ได้มาตรฐานจริง ก่อนเรื่องจะเงียบหายไป กระทั่งต่อมาวันที่ 9 ม.ค. 2564 น.ส.พิมรดาภรณ์ ได้เอาเงิน 5 แสนบาท ไปบริจาค กศน. อมก๋อย และบอกว่าเป็นกำไร ตนจึงอยากทราบว่าเงินที่นำไปบริจาคเป็นเงินที่ได้มาจากการขายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ นานสนธิญา กล่าวว่า ยืนยันว่าการร้องให้ตรวจสอบวันนี้ไม่ได้เป็นการรังแกผู้หญิง รวมทั้งไม่ได้กล่าวหาว่าน.ส.พิมรดาภรณ์กระทำผิด เพียงแต่อยากให้มีการตรวจสอบให้แน่ชัดซึ่งหากกองปราบตรวจสอบพบว่ากระทำผิด ตนก็จะมาแจ้งความดำเนินคดี ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และกฎหมายอาญาอื่นๆ อย่างไรก็ตามหากภายใน 1-2 วัน น.ส.พิมรดาภรณ์สามารถชี้แจงประเด็นข้อสงสัยต่างๆของตนได้ ก็พร้อมจะมาถอนคำร้องดังกล่าวออกให้ นอกจากนี้อยากฝากไปถึงคนที่บอกว่าตนเป็นพวก “มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” จึงอยากถามกลับว่า “ดีกว่าการพายเรือให้โจรนั่ง หรือไม่” ทั้งนี้ยืนยันว่า การที่ออกมาตรวจสอบ น.ส.พิมรดาภรณ์ ไม่เกี่ยวข้องกับการที่เขาไปขอโทษ ดร.ทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เด็กต้องขอโทษผู้ใหญ่ และไม่มีการเมืองอยู่เบื้องหลังใดๆ ทั้งสิ้น