posttoday

สธ.เผยปทุมธานี-ตากต้องเฝ้าระวังโควิด คัดกรองเชิงรุกต่อเนื่อง

14 กุมภาพันธ์ 2564

สธ.เผยสถานการณ์โควิดระบาดในปทุมธานีและตากยังต้องเฝ้าระวังและคัดกรองเชิงรุกต่อเนื่อง ย้ำต้องสวมหน้ากากในที่สาธารณะ100%และเว้นระยะห่าง

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทย สถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19ในขณะนี้ ที่ต้องเฝ้าระวัง คือ ปทุมธานีและตาก โดยการพบการติดเชื้อใน จ.ปทุมธานี เกี่ยวข้องกับการตลาดพรพัฒน์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีได้สั่งปิดตลาดแล้ว

จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกระหว่างวันที่ 9-13 ก.พ.64 จำนวนรวม 1,333 ราย พบติดเชื้อสะสม 175 ราย คิดเป็นร้อยละ 13.13 แบ่งเป็นคนไทย 111 ราย และต่างด้าว 64 ราย โดยขณะนี้ยังมีการตรวจคัดกรองเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้ป่วยรายแรกพบว่า มีการค้าขายที่ จ.สมุทรสาครและมาค้าขายที่ตลาดแห่งนี้ด้วย ซึ่งการค้าขายในตลาดหลายแห่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เชื้อแพร่กระจายไปจุดต่างๆ ได้

จากการสอบสวนโรคพบว่า จุดที่มีการติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่บริเวณกลางตลาด ซึ่งหลังคาค่อนข้างเตี้ย อากาศถ่ายเทไม่สะดวก มีการรับประทานอาหารร่วมกัน และเวลาอากาศร้อนก็อาจละเลยไม่สวมหน้ากากด้วย ดังนั้น ตลาดต้องจัดจุดลงทะเบียน เข้มการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และจัดระบบการระบายอากาศที่ดี

ขณะนี้ยังพบผู้เกี่ยวข้องกับตลาดพรพัฒน์เชื่อมโยงไปจังหวัดอื่นๆ จากการไปเยี่ยมญาติและค้าขาย ทำให้โรคกระจายไปเพิ่มเติม ได้แก่ นครนายก 7 ราย, เพชรบุรี 3 ราย, สระบุรี และกทม. จังหวัดละ 2 ราย, พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง นครราชสีมา และแพร่จังหวัดละ 1 ราย กรณี จ.นครราชสีมา พบเด็กอายุ 7 ปี ติดเชื้อจากแม่ที่ทำงานในตลาดพรพัฒน์

ดังนั้น ผู้ใดที่เคยสัมผัสกับผู้เกี่ยวข้องของตลาดพรพัฒน์ช่วงวันที่ 9-13 ก.พ.64 หรือก่อนหน้านี้ 7 วัน ถ้าไม่แน่ใจหรือมีอาการสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือโทรสายด่วน 1422 เพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในชุมชนได้

นายแพทย์โอภาสกล่าวอีกว่า กรณี อ.แม่สอด จ.ตาก จากการสอบสวนโรคตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม - 14 ก.พ.64 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค และตรวจคัดกรองเชิงรุกในตลาดสีมอย ตลาดพาเจริญ ชุมชนอันซอร โรงงาน และซุ้มเลี้ยงไก่ชน พบผู้ติดเชื้อรวม 112 ราย เชื่อมโยงกับชาวเมียนมาร้อยละ 89.29 ที่เหลือเป็นคนไทยร้อยละ 10.71 ทางจังหวัดได้ดำเนินการปิดพื้นที่บางส่วน และค้นหาเชิงรุกในชุมชนเพิ่มเติม

ขอย้ำในพื้นที่ที่มีการระบาด การสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ 100 เปอร์เซ็นต์เป็นสิ่งสำคัญ รวมทั้งการเว้นระยะห่าง และหากได้การแจ้งเตือนของเจ้าหน้าที่ขอให้ติดต่อเพื่อรับคำแนะนำการปฏิบัติตัวหรือตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อควบคุมโรคได้รวดเร็วขึ้น