posttoday

สธ.ชี้แนวโน้มผู้ป่วยโควิดในกทม.ลดลง ปรับเพิ่มมาตรการคุมโรคในพื้นที่

31 มกราคม 2564

สธ.เผยแนวโน้มผู้ป่วยโควิด-19 ในกทม.ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงปลายเดือนธ.ค.-ต้นม.ค. ชี้สาเหตุการระบาดส่วนใหญ่มาจากประชาชนไม่ป้องกันตัวเมื่ออยู่กับกลุ่มเพื่อน-คนใกล้ชิด

นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กล่าวระหว่างการแถลงข่าวสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 30 ม.ค. 64 ว่า สถานการณ์ในพื้นที่ กทม. ยังมีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ต่อเนื่อง แต่แนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับช่วงปลายเดือนธันวาคม - ต้นเดือนมกราคม

โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มียอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้น จากกลุ่มก้อนการระบาดขนาดใหญ่ 2 กรณี คือกรณีงานเลี้ยงวันเกิด และพนักงานในร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า อีกทั้งยังพบการติดเชื้อในกลุ่มเพื่อน เพื่อนสนิทเพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าประชาชนหย่อนมาตรการป้องกันตนเอง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในกลุ่มเพื่อนสนิทหรือคนใกล้ชิด จะมีการรับประทานอาหารร่วมกัน พูดคุยเสียงดัง รวมทั้งผู้ที่มีความเสี่ยงแต่ไม่กักตัวเองส่งผลให้คนใกล้ชิดติดเชื้อด้วย

ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กล่าวอีกว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ร่วมกับ กทม. ปรับเพิ่มมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่ อาทิ เพิ่มความเร็วในการตรวจจับการระบาด เน้นย้ำทุกหน่วยบริการเพิ่มการเฝ้าระวังในผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจและโรคปอด ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกโดยสุ่มตรวจหาการติดเชื้อของแรงงาน ในโรงงานทุกขนาด รวมถึงค้นหาการติดเชื้อที่อาจซ่อนอยู่ในชุมชน มุ่งเป้าไปที่คนไทยที่มีอาชีพบริการและเสี่ยงต่อการสัมผัสกับแรงงานต่างด้าว เช่น สำนักงานเขต บุคลากรสาธารณสุข ตำรวจ ขสมก. รถโดยสารรับจ้าง วินมอเตอร์ไซด์ เป็นต้น

“การระบาดเป็นกลุ่มที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เป็นบทเรียนสำคัญต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ไม่ไปในสถานที่เสี่ยง ร่วมกิจกรรมเสี่ยง หรือใกล้ชิดกับผู้ที่มีความเสี่ยง อาจติดเชื้อและไปแพร่กระจายให้คนใกล้ชิดได้ และหากมีปัจจัยเสี่ยงต้องรีบตรวจพร้อมป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด การสวมใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า คือจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน เป็นวัคซีนชีวิต ช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ระลึกเสมอว่า ต้องไม่เอาตัวไปเสี่ยงต่อการติดเชื้อเด็ดขาด อย่ารอให้การลุกลามจนยากจะควบคุม เพราะถึงตอนนั้นอาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้”นพ.วิชาญ กล่าว