posttoday

ชี้นักเสี่ยงโชคไม่กลัวโควิด-19เชื่อมีปัญหาเสพติดการพนัน

07 มกราคม 2564

เวทีเสวนาชี้บ่อนพนันผิดกฎหมายต้นตอการระบาดโควิด วิเคราะห์นักเสี่ยงโชคไม่กลัวโรคอาจมีปัญหาเสพติดการพนัน แนะแก้กม.พนันเสริมการดูแลสุขภาพ ระบุเปิดบ่อนถูกกฎหมายได้ไม่คุ้มเสีย

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. มูลนิธิรณรงค์หยุดพนันจัดเสวนา เรื่อง “หยุดบ่อน (พนัน) ทำลายเศรษฐกิจ ทำร้ายสังคม” โดยมี นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา รศ.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และ นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ร่วมเสวนา

นายธนากร กล่าวว่า ปัญหาบ่อนการพนันมีองค์ประกอบอยู่ 3 ฝ่ายเป็นอย่างน้อย 1.ผู้ประกอบการหรือเจ้าของบ่อน 2. ฝ่ายเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย และ 3. ฝั่งผู้เล่น ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันพบจำนวนผู้เล่นการพนันในบ่อนในช่วงปกติประมาณ 5 ล้านคน ถ้าสมมติในการระบาดโควิดแล้วมีนักพนันกลัวและเหลือผู้ที่ยังคงเล่นอยู่เพียง 10% ก็จะมีนักพนันถึง 5 แสนคนที่ไปเล่นทั้งที่รู้ว่ามีความเสี่ยงเสียเงิน เสี่ยงถูกจับ และเสี่ยงรับเชื้อโควิดฯ และแพร่ต่อได้อีกมหาศาล

ชี้นักเสี่ยงโชคไม่กลัวโควิด-19เชื่อมีปัญหาเสพติดการพนัน

ทั้งนี้ ต้องมาดูว่าอะไรที่ทำให้คนเหล่านี้ยังดิ้นรนไปเสี่ยงกับสิ่งเหล่านี้ ซึ่งมีข้อมูลที่สอบถามมายังกล่องข้อความของของมูลนิธิฯ ว่าตัวเขาติดพนัน และอยากเลิกเล่น ดังนั้นต้องมาดูว่าการที่คนดิ้นรนออกไปเล่นการพนันทั้งที่มีความเสี่ยงมากมาย เป็นเพราะมีปัญหาเสพติดการพนันหรือไม่ ซึ่งถือเป็นโรคที่ต้องได้รับการบำบัดเช่นกัน อีกแง่หนึ่งคือการบังคับใช้กฎหมายห้ามเล่นการพนันอย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้จะออกมาตั้งแต่ปี 2478 แต่ก็ยังมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกฎหมายดังกล่าวยังมีส่วนที่ต้องแก้ไขเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องกลไกการทำงานที่ครอบคลุมทุกมิติ มีกลไกการทำงานที่ละเอียดอ่อนมากขึ้น โดยเพิ่มมิติเรื่องของสุขภาพ การบำบัดรักษาผู้ติดการพนันเข้าไปด้วย โดยมีกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมมือกัน และอาจจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการ (บอร์ด ) ขึ้นมาดูแลเหมือนเรื่องเหล้า บุหรี่ ผนวกกับการปฏิรูปตำรวจเชื่อว่าปัญหาการพนันผิดกฎหมายจะลดลง เรื่องการเปิดบ่อนถูกกฎหมายก่อนหน้านี้ สหรัฐอเมริกามีการศึกษาต้นทุนผลกระทบจากการเล่นการพนันพบว่าต้นทุนผลกระทบต่อคนอยู่ที่ราวๆ 9 แสนบาท และแตกต่างจากรายได้การกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงหลักพันล้านบาท ดังนั้นตัวเลขของอเมริกาก็ชี้ให้เห็นว่าอาจจะไม่ได้คุ้มค่าเลยได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจก็จริงแต่มีความเสียหายที่มองไม่เห็นอีกมากมาย

รศ.นวลน้อย กล่าวว่า จากการสำรวจการเล่นการพนันของคนไทยในปี 2562 ช่วงสถานการณ์ปกติ พบว่ามีการเล่นการพนันในทุกจังหวัด แต่จากข้อมูลพบว่ามีผู้มีหนี้สินจากการพนันราวๆ 1 ล้านคน มูลค่าหนี้สินกว่า 1 หมื่นล้านบาท ทั้งหมดสะท้อนว่าปัญหาบ่อนการพนันในไทยมีมานาน ซึ่งการแก้ปัญหามีบางคนบอกว่าให้ทำเป็นบ่อนถูกกฎหมาย แต่เรื่องนี้ต้องมองหลายมิติ ซึ่งตนมองว่ามีอยู่ 3 เรื่องใหญ่ๆ คือ 1.รูปแบบบ่อนการพนันคนจะมองภาพคือบ่อนเป็นที่รวมศูนย์ความบันเทิงต่างๆ ซึ่งจะแก้ปัญหาไม่ได้ เพราะเกิดขึ้นในบางจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น ส่วนคนในพื้นที่อื่นๆ ก็ลักลอบเล่นแบบผิดกฎหมายเหมือนเดิม 2. การวางกรอบกติกาในการบริหารจัดการ การควบคุมผลกระทบของการพนัน และต้องบังคับใช้กติกาอย่างเข้มแข็ง ชัดเจน และ 3.การปฏิรูปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นบ่อเกิดของ การเกิดธุรกิจสีเทาขึ้นในประเทศไทย

พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งนี้ สะท้อนว่ามีปัญหามาจากรากเหง้ามาจากเรื่องใต้ดินผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย และ เรื่องบ่อนการพนัน ซึ่งเชื่อว่าปัญหาที่ผุดขึ้นมาวันนี้ยังไม่หมด จริงๆ ตำรวจเองก็รู้รับรู้ถึงปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่ไม่ได้ทำอะไร พูดตรงๆ บางแห่งตำรวจจัดให้มีด้วย ที่ตนพูดมานี่ยังเบาไปด้วยซ้ำ และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตำรวจระดับสูง ส่วนตำรวจตัวเล็กๆ ไม่ได้อะไร ปัญหาคือพอเกิดเรื่องแล้วใช้ระบบการเด้ง 5 เสือ ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ใช่การลงโทษด้วยซ้ำ บางคนได้เลื่อนขั้นด้วยซ้ำ สิ่งที่ควรทำเพื่อเป็นการลงโทษคือ ย้ายแล้วตั้งกรรมการสอบถ้าจะให้เด็ดขาดก็คือสั่งสำรองราชการ ซึ่งเท่ากับทำงานย่อหย่อน ถ้าจะให้ดีกว่านี้คือต้องสั่งพักราชการ