posttoday

กทม.กำชับทุกเขตกวดขันห้ามเปิดผับบาร์คาราโอเกะเด็ดขาด

07 มกราคม 2564

ที่ประชุมศบค.กทม.สั่งเข้มให้สำนักงานเขตลงพื้นที่ตรวจสอบไม่ให้ให้มีการเปิดผับบาร์ คาราโอเกะตามประกาศ อย่างเข้มงวดอย่าผ่อนปรน พร้อมกวดขันร้านอาหารยึดมาตรการป้องกันโควิด

เมื่อวันที่ 7 ม.ค.พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นประธานกาประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) ครั้งที่ 5/2564 โดยมี คณะผู้บริหาร กทม. ผู้แทนสำนัก ผู้แทน บช.น. ผู้แทน กอ.รมน.กทม. ผู้แทนกลุ่มเขต และผู้แทนส่วนราชการในสังกัด กทม.ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า)

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กทม.วันนี้พบผู้ป่วยเพิ่ม 47 ราย โดย 1 รายมีความเชื่อมโยงกับจ.สมุทรสาคร นอกจากนี้จากกรณีนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการเพื่อกำหนดมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นในการระงับยับยั้งการระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งระบาดแบบกลุ่มก้อนในเขตหลายเขตพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ที่จำเป็นต้องมีมาตรการที่เข้มงวดเพื่อการสกัดและยับยั้งการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มีผลตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2564 เป็นต้นไป

กทม.กำชับทุกเขตกวดขันห้ามเปิดผับบาร์คาราโอเกะเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมกำชับให้สำนักงานเขตลงพื้นที่ตรวจสอบไม่ให้ให้มีการเปิดผับบาร์ คาราโอเกะตามประกาศ กทม.อย่างเข้มงวด อย่าผ่อนปรน โดยในส่วนของร้านอาหารให้ปฏิบัติตามาตรการ DMHTT ได้แก่ D : Social Distancing เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร เลี่ยงการอยู่ในที่แออัด M: Mask Wearing สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา H: Hand Washing ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ T: Temperature check การตรวจวัดอุณหภูมิและตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในกรณีที่มีอาการเข้าข่ายและ T: Thai Cha Na สแกนไทยชนะก่อนเข้า-ออกสถานที่สาธารณะทุกครั้ง เพื่อให้มีข้อมูลในการประสานงานได้ง่ายขึ้น