posttoday

"หมอธีระ""ชี้ "ยุทธวิธีน่ารัก" ของรัฐบาลจะหยุดการระบาดไม่ได้ในระยะเวลาสั้น

06 มกราคม 2564

"รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์" มองมาตรการสกัดโควิดของรัฐบาล เป็น "ยุทธวิธีน่ารัก" ที่ไม่สามารถหยุดการระบาดได้ในระยะเวลาอันสั้น แนะประชาชนทุกคนต้องดูแลตัวเองและครอบครัวให้ดี

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงคววามเห็นถึงสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 โดยข้อความตอนหนึ่งระบุว่า

สำหรับเมืองไทยเรา...มีแนวโน้มว่ามาตรการต่างๆ จะเป็นไปในลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลหลายประการ

คาดว่าจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในด้านมาตรการหลัก ไปจนกว่าจะสิ้นเดือนมกราคม

และหากเป็นเช่นนั้น ให้ทำใจเผื่อไว้ว่า แม้จะปฏิบัติกันตามแนวทางที่มีอย่างเต็มที่ ก็จะทำได้เพียงยันกระแสการระบาดได้ระดับหนึ่ง เปรียบเหมือนน้ำท่วมทะลักเข้าพื้นที่ แต่มาตรการต่างๆ อันเปรียบเหมือนกำแพงและเครื่องสูบน้ำนั้นมีไม่เพียงพอ ก็จะทำให้ในพื้นที่มีน้ำขังอยู่มากบ้างน้อยบ้างตามแต่จะจัดการกันไป หวังเพียงไม่ท่วมหนักจนจมน้ำหายใจไม่ออก

การรับมือการระบาดซ้ำครั้งนี้ต่างจากรอบที่แล้ว เพราะไม่ได้สั่งการให้ดำเนินการ แต่ใช้ลักษณะยุทธวิธีน่ารักแบบเทเลทับบี้ รณรงค์ให้ทำ และเกลี่ยความรับผิดชอบให้แต่ละพื้นที่ไปจัดการกันเอง

วิเคราะห์ในแง่ดี คือ แนวทางการกระจายอำนาจการจัดการไปสู่ระดับจังหวัด หากทำอย่างเต็มรูปแบบ ไม่มายกเลิกกันแบบต่อหน้าต่อตาก็จะดี แต่ละจังหวัดทั้งหน่วยงานในพื้นที่และประชาชนจะได้มีอิสระในการปกป้องถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเองอย่างเต็มที่

แต่อุปสรรคใหญ่ที่เรากำลังจะเจอในไม่ช้า และบางแห่งก็กำลังเผชิญอยู่แล้วคือ โครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรในพื้นที่ที่มีความแตกต่างกันมาก ทำให้เกิดการขาดแคลนทั้งเรื่องคน เงิน อุปกรณ์ต่างๆ จนหลายแห่งที่ระบาดหนักจำเป็นต้องเปิดขอรับบริจาคหรือขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ในสังคม

ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่เราทุกคนต้องดูแลตัวเองและครอบครัวให้ดี อย่างน้อยที่สุดคืออย่าให้ติดเชื้อหรือป่วย เพราะจะทำให้เสี่ยงทั้งต่อตัวเองที่จะได้รับการดูแลได้ไม่ทั่วถึงแล้ว ยังเป็นภาระแก่ระบบต่างๆ ในสังคมด้วย

การดูแลตนเองให้ดีนั้นแม้จะยากลำบากสักหน่อย หรือฝืนการดำเนินชีวิตประจำวันไปบ้างไม่มากก็น้อย แต่เป็นหัวใจหลักในการต่อสู้กับศึกโรคระบาดซ้ำครั้งนี้ เพราะ"ยุทธวิธีน่ารัก"นั้นจะไม่สามารถจัดการการระบาดได้ในระยะเวลาสั้น จึงต้องอาศัยความอึดเป็นหลักในการรักษาชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัย แบบ Survivor game

มีหลายท่านถามมาเมื่อวานนี้ว่า ถ้าจะเลือกวิธีสู้ จะสู้แบบไหน ผมตอบไปว่า หากย้อนกลับไปสองสัปดาห์ก่อน ผมจะเลือกทำ Regional lockdown ในระยะสั้น เพื่อให้จัดการศึกนี้ไม่ให้ลุกลามครับ

แต่ตอนนี้ย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว การระบาดกระจายไปทั่ว และยากที่จะตรวจหาคนติดเชื้อได้ครบถ้วนทุกพื้นที่ เพราะมีติดเชื้อแฝงไปทั่วในชุมชนต่างๆ ทั้งกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มคนทั่วไป แถมระบบการตรวจของประเทศก็มีศักยภาพที่จำกัด หากจะจัดการตอนนี้จำเป็นต้องเข้มข้นอย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศให้ทันเวลาทอง ไม่งั้นก็ยาวอย่างที่วิเคราะห์มา

เอาใจช่วยทุกคนให้มีกำลังกายกำลังใจป้องกันตนเองและครอบครัว รวมถึงบุคลากรในพื้นที่ทุกท่าน