แพทย์แนะกุญแจ3ดอกสกัดโควิด สังคมร่วมป้องกันเต็มที่-รัฐต้องตรวจมากที่สุด
"รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์" แนะกุญแจ 3 ดอกเพื่อสกัดโควิดระบาด รัฐต้องประกาศมาตรการเข้มข้น ประชาชนต้องร่วมป้องกันอย่างเต็มที่ รัฐต้องตรวจหาเชื้อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 64 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat แสดงความเห็นถึงสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า
สิ่งสำคัญคือต้องยอมรับความจริงว่า สาเหตุหลักของการระบาดซ้ำครั้งนี้เกิดจากเรากันเองครับ
หนึ่ง คนไทยที่ลักลอบกลับเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
สอง คนที่อำนวยความสะดวกให้คนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
สาม นายจ้างที่รับคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาทำงานโดยไม่ผ่านระบบการกักตัวและตรวจโรคโควิด-19 ตามที่ทางการกำหนด
สี่่ เจ้าของธุรกิจที่ค้าขายโดยไม่ป้องกันตัว ทำให้แพร่สู่คนอื่นในสังคม
ห้า นักพนันมากมายที่ไม่มีสำนึกรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม
หก นักเที่ยวสถานบันเทิง รวมถึงคนทำงานในพื้นที่เสี่ยง สถานที่เสี่ยง หรือมีกิจกรรมเสี่ยง
และสำคัญที่สุดคือ เจ็ด เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐและนักการเมืองที่คุมอำนาจนโยบาย ที่สร้างมายาคติ ทำให้คนในสังคมเข้าใจว่าเอาอยู่ โรคธรรมดา โรคกระจอก คนเงินของเหลือเฟือ ระบบติดตามโคตรเจ๋งระดับโลก ทั้งๆ ที่หากพิจารณาตามข้อมูลที่เห็นจากการระบาดซ้ำของทั่วโลก โอกาสเอาอยู่นั้นน้อยมาก
ทั้งเจ็ดเรื่องดังกล่าว จึงอธิบายปรากฏการณ์ที่เราเห็นในปัจจุบัน
การวิเคราะห์ตรงๆ เช่นนี้ จะช่วยให้เราได้เรียนรู้ ระมัดระวัง ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
หากว่ากันตามข้อมูลที่มีอยู่ โอกาสที่เราจะสะบักสะบอมกว่าเดิมมีสูงเกือบ 90% ในขณะที่โอกาสที่เจ็บตัวน้อยกว่าหรือพอๆ กับครั้งแรกนั้นมีน้อย แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นศูนย์
หนทางสู้นั้น สกัดจากบทเรียนทั่วโลก มีกุญแจเพียง 3 ดอกคือ
รัฐต้องประกาศมาตรการเข้มข้นเคร่งครัดอย่างทันเวลา (ไม่เกิน 4 สัปดาห์หลังจากเริ่มระบาดซ้ำ)
ประชาชนต้องสู้ยิบตา ช่วยกันป้องกันตัวอย่างเต็มที่และพร้อมเพรียง
และระบบการตรวจโควิดนั้นต้องตรวจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อหาคนติดเชื้อทั้งจากกลุ่มเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง รวมถึงประชาชนทั่วไปในทุกพื้นที่ที่มีเคส ไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่มีก็ตาม
ขอให้ทราบไว้ว่า สิ่งที่เรากำลังจะเผชิญนี้มีโอกาสสูงมากที่จะแรงกว่าเดิม นานกว่าเดิม...อาจติดเชื้อสูงถึง 940 คนต่อวันหรือ 5 เท่าของระลอกแรก และต้องสู้นาน 88 วันหรือ 2 เท่าของระลอกแรก
นั่นคือการคาดประมาณ อาจมากหรือน้อยกว่านั้นได้ ถ้าเราไม่ช่วยกันอย่างพร้อมเพรียงก็จะเจ็บหนักขึ้น นานขึ้น แต่หากสู้กันยิบตา แม้โอกาสจะน้อย ก็ยังมีโอกาสที่จะเบาลง และสั้นลงได้บ้าง
จุดเวลาที่จะประเมินคือ กลางมกราคมนี้ และปลายมีนาคม
เวลาวิกฤติเช่นนี้ ขอให้มองเป้าระยะสั้นไว้ จะทำให้เราทุกคนมีกำลังใจ
ขอให้ 15 มกราคม พยายามช่วยกันกดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ป้องกันตัวเองอย่าให้ติดเชื้อหรือแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว ถ้าวันนั้นน้อยกว่า 500...ก็มีหวังเสร็จในมีนาคม แต่หากมากกว่านั้นก็มีโอกาสยาว
อย่างไรก็ตาม การวางแผนชีวิตของเราแต่ละคนไว้ล่วงหน้าก็ย่อมจะดี จะได้ไม่ประมาท...Look for the best but prepare for the worst...
ด้วยรักต่อทุกคน