เตือนคนไปพื้นที่เสี่ยงติดโควิดแล้วป่วยให้รีบตรวจ หากมาช้าเกิน48ชม.มีโอกาสตายได้

เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 64 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ปฏิบัติราชการรองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวระหว่างการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด19ประจำวัน ว่า จากกรณีที่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด เป็นชายอายุ 44 ปี เสียชีวิตนั้น พบว่า จากประวัติมีอาการป่วยตั้งแต่ 26 ธ.ค.63 โดยมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก และเหนื่อยหอบ หลังมีอาการป่วยไม่ได้ไปพบแพทย์ทันที จากนั้นได้มีอาการเหนื่อยมากขึ้นจึงไปตรวจในวันที่ 30 ธ.ค. พบความอิ่มตัวในเลือดลดเหลือ 80% ผลตรวจพบเชื้อโควิด ต่อมาวันที่ 31 ธ.ค.อาการไม่ดีขึ้น ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตในช่วง 15.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค.

"กรณีนี้เป็น ตัวอย่างของการป่วยซึ่งนำมาซึ่งอาการรุนแรงในเวลาอันสั้น ดังนั้นจึงมีคำแนะนำต่อประชาชนที่ ถ้าหากเป็นผู้มีประวัติเสี่ยงเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการพบผู้ติดเชื้อ และใน 14 วันหลังจากนั้นมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส และ มีอาการเหนื่อย ควรรีบเข้ารับการตรวจและรักษาโดยเร็ว เพราะหากมาช้าเกิน 48 ชั่วโมงมีโอกาสเสียชีวิตได้"นพ.โสภณ

นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ประชาชนกลุ่มที่มีความเสี่ยงคือ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เบาหวาน โรคปอด หญิงตั้งครรภ์หรือเด็ก ดังนั้นขอให้ประชาชนในกลุ่มเสี่ยงและมีประวัติเสี่ยง หากมีอาการป่วยให้รีบมาพบแพทย์