posttoday

ให้ออก!!! เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงาน เรียกเงินเอกชนแลกรับผลประโยชน์

05 ตุลาคม 2563

กระทรวงพลังงานออกโรง ชี้แจงการจับกุมเจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ หากผิดจริงดำเนินการตามกฏหมายทันที ล่าสุดสั่งให้ออกจากราชการ พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงภายใน 7 วัน

นายสมภพ อ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ได้ประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.)เข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพลังงาน ในข้อหามีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการนั้น ขอเรียนว่ากระทรวงพลังงานได้รับการประสานจาก ป.ป.ท.ตามขั้นตอน ซึ่งกระทรวงพลังงานยืนยันว่าหากเจ้าหน้าที่กระทำความผิดจริงก็ให้ดำเนินการกรอบกฎหมาย

อย่างไรก็ตามขณะนี้กรมธุรกิจพลังงานในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดอยู่ในระหว่างการเร่งประสาน สน.บางซื่อ เพื่อนำใบแจ้งความ เจ้าหน้าที่รายดังกล่าว มาประกอบคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน และจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และต้องสรุปผลให้ได้ภายใน 7 วัน ทั้งนี้กระทรวงพลังงานขอยืนยันว่ากระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานราชการที่จะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(5ต.ค.) พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.ได้รับแจ้งจากผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงานว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดกระทรวงพลังงาน เรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เพื่อดำเนินการยื่นเรื่องขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการคลังน้ำมัน ซึ่งต่อมา ได้มอบหมายให้นายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมด้วย พ.ต.ท. งามพล บุญลิ่มเต็ง ผอ.กปท.1 ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นำโดยพ.ต.อ.ตรัยฤกษ์ ปัญญาไตรรัตน์ ผกก. 1 บก ปปป. เข้าจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าว ที่ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ อาคาร A เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากสำนักงาน ป.ป.ท.ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทแห่งหนึ่ง ให้ดำเนินการยื่นเรื่องขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการคลังน้ำมัน ที่กองความปลอดภัยธุรกิจน้ำมัน กรมธุรกิจพลังงาน เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2563 ซึ่งได้ไปยื่นเรื่องแบบคำขอศูนย์บริการธุรกิจพลังงาน กรมธุกิจพลังงาน เพื่อขอเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการคลังน้ำมัน ระยะที่ 1 (ชลบุรี) โดยมีเจ้าหน้าที่ตำแหน่งวิศวกรชำนาญการ สังกัดกองความปลอดภัยธุรกิจน้ำมัน เป็นเจ้าหน้าที่รับเรื่อง และมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้แจ้งให้ผู้เสียหายไปพบที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง แล้วแจ้งว่าให้แก้ไขแบบที่ยื่นฯ โดยไม่มีการลงนามแจ้งแก้ไขเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งผู้เสียหายได้ยินยอมที่จะแก้ไข เนื่องจากต้องการให้เรื่องเสร็จสิ้นภายในกรอบระยะเวลาของการยื่นเรื่อง คือ 45 วัน

ต่อมาเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้มีการพูดคุยกับผู้เสียหายและมีการเรียกรับเงินจำนวน 50,000 บาท โดยอ้างว่าจะต้องนำไปให้หัวหน้างานในลำดับถัดไปดำเนินการพิจารณาอนุญาตเรื่องที่ยื่น แต่ทางผู้เสียหายได้ต่อรองเหลือ 20,000 บาท โดยจะนัดหมายเพื่อจ่ายเงินหลังจากที่ได้มีการเซ็นรับใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว สำนักงาน ป.ป.ท. จึงได้ประสานงานและวางแผนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ดำเนินการเข้าจับกุมในครั้งนี้ โดยจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย ทั้งนี้ ได้นำตัวส่งสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป