posttoday

"ลูกหวาดผวา-เริ่มมีปัญหาเข้าสังคม" เสียงจากผู้ปกครองเด็กเหยื่อความรุนแรงครู

05 ตุลาคม 2563

เสียงจากผู้ปกครองนักเรียนอนุบาลเหยื่อของความรุนแรงในโรงเรียนที่มาจากฝีมือครูและพี่เลี้ยง ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นลูกถูกกระทำซ้ำนับ 10 ครั้ง ปัจจุบันต้องอยู่ในอาการหวาดผวาและเริ่มมีปัญหาเข้าสังคม

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 63 กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์จำนวน 20 คนพร้อมนายรณรงค์ แก้วเพชร ทนายความเข้ายื่นหนังสือต่อนายประยุทธ์ เพ็ชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อฟ้องร้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายจากทางโรงเรียน

มารดาของ เด็กชายที่ถูกครูกระทำรุนแรงด้วยการใช้ถุงขยะครอบศีรษะ ระบุว่า ทนายได้ประสานกลุ่มผู้ปกครองให้เข้ามายื่นเรื่องร้องเรียนทางแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายและเรียกร้องความเป็นธรรมจากโรงเรียน โดยกรณีของบุตรชายจากกล้องวงจรปิดในชั้นเรียนพบว่า ครูใช้ถุงดำครอบศีรษะลูก รวมทั้งได้กระชากตัวน้องไปหลังห้องเรียนและนำมืออุดปาก อุดจมูก และที่หนักกว่านั้นคือ การจับตัวน้องให้ลงไปอยู่ในถังขยะพร้อมข่มขู่ให้หยุดร้องไห้

เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังและเห็นพฤติกรรมของครู ยิ่งเจอก็ยิ่งรับไม่ได้ ยืนยันว่าจะไม่ขอยอมความกับครูและโรงเรียน

"แม่ไม่เคยลงโทษน้องลักษณะนี้ แต่จากการสังเกตพฤติกรรมของน้อง ทางร่ายกายแม้จะไม่มีความผิดปกติมาก บางครั้งมีแค่รอยเขียวช้ำก็คิดว่า เด็กเล่นกันแล้วกระทบกระทั่ง จึงไม่ได้สงสัยอะไร แต่ถ้าด้านจิตใจไม่ทราบจะกระทบกระเทือนอะไรหรือไม่ กลัวจะส่งผลถึงอนาคตโดยเฉพาะเป็นภาพจำของเขา เพราะลูกถูกกระทำอย่างรุนแรงมาก และเชื่อว่า เขาน่าจะถูกกระทำมาหลายเดือนแล้ว"

"แค่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดเพียง 3 วันยังพบว่าลูกถูกกระทำขนาดนี้ แต่ก่อนหน้านั้นก็ไม่รู้ว่าลูกโดนอะไร กลางคืนก็มีนอนร้องให้ นอนผวา แม่ก็เข้าใจว่าเขาฝันร้าย แต่พอรู้อย่างนี้ก็เข้าใจที่มาทั้งหมดแล้วว่า ทำไมลูกถึงเป็นแบบนี้ บางครั้งลูกก็มีอารมณ์เกรี้ยวกราด ก็ยังคิดว่าอาจจะเป็นวัยของเขา"น.ส.พิมระดา กล่าวว่า

ผู้ปกครองรายนี้ระบุอีกว่า กลุ่มผู้ปกครองอยากให้โรงเรียนแสดงความรับผิดชอบและความจริงใจในการแก้ปัญหาด้วย โรงเรียนมีชื่อเสียงขนาดนี้แค่ประสานโรงพยาบาลที่มีคุณภาพและดูแลสุขภาพจิตของเด็กที่ถูกกระทำ เพื่อให้ผู้ปกครองพาบุตรเข้าไปรับการรักษา แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น ไม่มีการติดต่ออะไร แต่กลับพบข้อมูลทางสื่อจะทางโรงเรียนจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปกครองเท่านั้น

ผู้ปกครองของนักเรียนอนุบาลเหยื่อความรุนแรงอีกราย กล่าวว่า กลุ่มผู้ปกครองมาขอความเป็นธรรมให้กับบุตรของตัวเอง ในส่วนของลูกชาย จากการตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิดย้อนหลังพบว่าลูกชายถูกทำร้ายถึง 17 ครั้ง จึงขอฝากความหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากอัยการ

ด้าน ผู้ปกครองนักเรียนอนุบาลที่ถูกอดีตพี่เลี้ยงจุ๋มทำร้าย และได้เกิดบันดาลโทสะเข้าไปทำร้าย อดีตพี่เลี้ยงจุ๋มระหว่างการแถลงข่าว เปิดเผยว่า ที่เข้าไปทำร้ายร่างกายอดีตพี่เลี้ยงจุ๋มว่า ไม่มีเจตนาจะทำร้ายร่างกาย แต่เกิดจากบันดาลโทสะที่เห็นลูกชายถูกทำร้าย พร้อมรับผิดชอบตามกฎหมายและเสียค่าปรับทุกประการ

"ผมยอมรับผิดว่าเราผิด และเป็นสิทธิของอดีตครูจุ๋มที่จะเข้าแจ้งความ ส่วนกรณีที่ครูจุ๋มออกมาขอโทษโดยระบุว่า มีความเครียดจากปัญหาทางครอบครัวนั้น หากเขาสำนึกผิดจริงๆ ก็ควรจะเข้าพบผู้ปกครองทุกคนเพื่อมาขอโทษต่อหน้าไม่ใช่ขอโทษผ่านสื่อ เป็นการแสดงความจริงใจให้ชัดเจน เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วจะไปย้อนเรื่องราวกลับมาไม่ได้ และการให้อภัยเป็นทางออกที่ดีที่สุด"

ผู้ปกครองรายนี้ระบุว่า กรณีที่โรงเรียนในเครือสารสาสน์ฯ ตั้งทนายมาดำเนินการดูแลเรื่องคดี ด้านกฎหมายถือว่ามีความผิด เพราะมีหลักฐานปรากฏชัดในกล้องวงจรปิดชัดเจน ไม่ว่าจะตั้งทนายมากี่คนเพื่อสู้คดีก็เป็นสิทธิของทางโรงเรียน แต่ความจริงก็คือความจริง

ส่วนเรื่องการฟ้องร้องทางแพ่ง กลุ่มผู้ปกครองทั้งหมดยังไม่ได้คุยได้ ว่าแต่ละคนต้องการอะไรบ้าง ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายเท่าไหร่ ขอแค่โรงเรียนออกมารับผิดชอบก่อนดีกว่า โดยเฉพาะการดูแลด้านจิตใจของเด็กๆเพราะเด็กหลายคนเริ่มมีอาการ กังวล หวาดผวา และมีปัญหาการเข้าสังคม จึงอยากให้จิตแพทย์เข้ามาช่วยดูแล

"จากการปรึกษาจิตแพทย์เบื้องต้นการฟื้นฟูจิตของของเด็กๆต้องใช้เวลานานถึง 10 ปีเพราะภาพความทรงจำที่ถูกกระทำรุนจะฝังอยู่ที่สมองด้านหลังยาวนานเลย เงินเท่าไหร่ก็รักษาไม่ได้ ผมไม่ได้อยากได้เงิน แต่อยากได้ลูกคนเดิม คืนกลับมามากกว่า"ผู้ปกครองรายนี้ระบุ