posttoday

พช.จับมือกรมราชทัณฑ์น้อมนำโครงการพระราชทานคืนคนดีสู่สังคม

11 กันยายน 2563

กรมการพัฒนาชุมชน น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ สืบสานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง จับมือกรมราชทัณฑ์คืนคนดีสู่สังคม

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 พลอากาศตรีสุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง” ระหว่างกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม โดยพันตำรวจ เอกณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กับ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และหน่วยงานเกียวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงนี้ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ ในการบูรณาการสืบสานพระราชปณิธาน และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงพระราชทาน โครงการ “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” กรมราชทัณฑ์ เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มนักโทษเด็ดขาด ที่คาดว่าจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ และจะพ้นโทษในปี 2563 จำนวน 39,084 ราย ในเรือนจำ 137 แห่ง มีความรู้ความเข้าใจ ส่งเสริมทักษะทางการเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็กมองเห็นโอกาสในการประกอบสัมมาชีพภายหลังพ้นโทษ

พช.จับมือกรมราชทัณฑ์น้อมนำโครงการพระราชทานคืนคนดีสู่สังคม

พลอากาศตรีสุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง กล่าวว่า “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นห่วงในพสกนิกรทุกหมู่เหล่าของพระองค์แม้จะเป็นผู้ต้องราชทัณฑ์ จึงทรงพระราชทานโครงการ “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” กรมราชทัณฑ์ โดยมีพระบรมราชาบายให้เกิดความยั่งยืน พัฒนาส่งเสริมให้ผู้ต้องราชทัณฑ์เป็นคนดี มีอาชีพเลี้ยงตัวภายหลังพ้นโทษได้อย่างพอเพียง”

พลตรีสมบัติ ธัญญะวัน ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวเสริมในความสำคัญของ “โครงการโคกหนองนา แห่งน้ำใจและความหวัง” ว่า “เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงพระราชทาน ตามพระราชดำรัส “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือนักโทษเด็ดขาดที่คาดว่าจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ และจะพ้นโทษในปี 2563 โดยหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง ดำรงชีวิตได้อย่างพออยู่พอกิน สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ภายหลังพ้นโทษ”

พช.จับมือกรมราชทัณฑ์น้อมนำโครงการพระราชทานคืนคนดีสู่สังคม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการโคกหนองนา แห่งน้ำใจและความหวัง ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ในครั้งนี้ ถือเป็นการบูรณาการการทำงาน อาศัยศักยภาพจุดแข็งของแต่ละหน่วยงานมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน โดยให้โอกาสผู้พ้นโทษได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ที่กรมการพัฒนาชุมชนดำเนินการ ตามความพร้อมและสมัครใจ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งตนเองได้ภายหลังพ้นโทษ สมดังพระราชปณิธานคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม”ต่อไป

ด้านพันตำรวจเอกณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า “การร่วมลงนามกับ กรมการพัฒนาชุมชนในครั้งนี้ เกิดจากพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2563 ที่กรมราชทัณฑ์ กำหนดโครงการพระราชทานใน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง” โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อผู้ต้องโทษพ้นจากการการควบคุมของกรมราชทัณฑ์แล้ว ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยในการดูแล บริหารจัดการคนกลุ่มนี้ให้สามารถมีงานและจัดสวัสดิการไม่ให้กลับมากระทำความผิดซ้ำอีก”