ปภ.แนะพื้นที่เสี่ยงเตรียมรับมืออุทกภัย หลังช่วงนี้ฝนตกชุก

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ช่วงฤดูฝนหลายพื้นที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยหลายรูปแบบ ทั้งน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะการเตรียมพร้อมรับมือและเรียนรู้การปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยจากอุทกภัย ดังนี้ ก่อนเกิดอุทกภัย ให้ติดตามสภาพอากาศและปริมาณน้ำในพื้นที่ ทั้งพยากรณ์อากาศ ประกาศเตือนภัย ระดับน้ำ การคาดการณ์สถานการณ์ภัย พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด เตรียมสิ่งของและเครื่องใช้ที่จำเป็น ทั้งเครื่องอุปโภคบริโภคและเอกสารสำคัญ โดยวางไว้บริเวณที่สามารถหยิบได้ทันทีที่ต้องอพยพ

"รวมถึงสังเกตระดับน้ำและความผิดปกติทางธรรมชาติ อาทิ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น สีของน้ำขุ่นเหมือนสีดินภูเขา รวมถึง เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จะได้เตรียมพร้อมและอพยพหนีภัยทันท่วงที ตลอดจนป้องกันน้ำท่วมบ้าน โดยกำจัดขยะไม่ให้อุดตันท่อน้ำ กำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมจัดวางกระสอบทรายเป็นแนวคันกั้นน้ำบริเวณรอบบ้าน เมื่อเกิดอุทกภัย กรณีอาศัยในบ้านเรือนได้ ให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ให้พ้นจากระดับน้ำท่วม รวมถึงอพยพสัตว์เลี้ยงและเคลื่อนย้ายยานพาหนะไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ตัดกระแสไฟฟ้า โดยปิดสวิตซ์ไฟ สับคัตเอาท์ เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่ว ไม่ใช้และสัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้าขณะที่ร่างกายเปียกชื้น หรือยืนบนพื้นที่ชื้นแฉะ เพื่อป้องกันไฟฟ้าดูด" อธิบดี ปภ.กล่าว

นายชยพล กล่าวต่ออีกว่า ไม่ควรประกอบกิจกรรมบริเวณน้ำท่วมสูงและกระแสน้ำไหลเชี่ยว อาทิ จับสัตว์น้ำ ว่ายน้ำ เพื่อป้องกันกระแสน้ำพัด หรือจมน้ำเสียชีวิต ใช้วัสดุที่ลอยน้ำและพยุงตัวได้ เมื่อต้องเดินทางช่วงน้ำท่วม ไม่เข้าใกล้แนวสายไฟ เสาไฟฟ้า หรือสัมผัสสื่อนำไฟฟ้า เพราะอาจมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหล ทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ สวมรองเท้าบูททุกครั้งเมื่อต้องเดินลุยน้ำ เพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษ ของมีคม ใช้วัสดุที่ลอยน้ำได้ยึดเกาะพยุงตัวเมื่อต้องเดินลุยน้ำท่วมสูง จะช่วยป้องกันการจมน้ำ รวมถึงไม่เดินลุยน้ำ ช่วงกลางคืน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการพลัดตกน้ำ

"เมื่อต้องอพยพออกจากพื้นที่ ให้อพยพไปตามเส้นทางที่ปลอดภัย พ้นจากเส้นทางน้ำไหลเชี่ยว และน้ำท่วมสูง หลีกเลี่ยงการเดินข้ามลำน้ำ โดยเฉพาะบริเวณที่มีน้ำท่วมสูง รวมถึงไม่ขับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณที่น้ำท่วมสูง เพราะกระแสน้ำอาจพัดรถออกนอกเส้นทางจนเกิดอันตรายได้ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการเกิดอุทกภัย สำหรับประชนที่ประสบอุทกภัยสามารถแจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะได้ประสานการให้ความช่วยเหลือต่อไป"