"สมศักดิ์"ไขก๊อกหัวคณะทำงานสอบดุลยพินิจ"เนตร"สั่งไม่ฟ้อง"บอส"
อยากเรียกศรัทธาจากประชาชน องค์กรอัยการต้องจริงใจแก้ปัญหา สมศักดิ์ไขก๊อกหัวคณะทำงานสอบดุลยพินิจ"เนตร"สั่งไม่ฟ้อง"บอส "
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 63 นายสมศักดิ์ บุญทอง อดีตรองอัยการสูงสุด ประธานคณะทำงานตรวจสอบการใช้ดุลยพินิจของนายเนตร รองอัยการสูงสุด กรณีออกคำสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว"Somsak Boontong"ใจความระบุว่า
“เรียนพี่ๆเพื่อนๆน้องๆอัยการที่เคารพรักทุกท่าน. ตามที่อัยการสูงสุด (อสส.) ได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานขึ้นตรวจสอบการฟังพยานของนายเนตร นาคสุกรองอัยการสูงสุดกรณีสั่งไม่ฟ้องนายบอส อยู่วิทยา โดยผมเป็นประธานคณะทำงานผมให้เลขานัดประชุมคณะทำงานวันที่ 17 ส.ค.บ่ายเช้าผมเข้าไปตรวจเอกสาร. จึงทราบว่า
(1) คณะทำงานที่เป็นบุคคลภายนอกไม่สามารถมาร่วมงานได้เนื่องจากผู้บังคับบัญชาไม่อนุญาตจึงเหลือคณะทำงานที่เป็นอดีตอัยการเพียงสามคนซึ่งได้หารือกันแล้วเห็นควรเลื่อนการประชุมไปก่อน
(2) ทราบว่า อสส. ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาก่อนหน้านี้สองชุด มีรองอัยการสูงสุดเป็นประธาน. พิจารณาในประเด็น เรื่องอำนาจสั่งคดีของนายเนตรและคณะทำงานทั้งสองชุดได้ทำความเห็นเสนอ อสส.เรียบร้อยแล้ว เลขาคณะทำงานชุดของผมได้นำเอกสารมามอบให้และแจ้งว่าคณะทำงานชุดของผมไม่ต้องพิจารณาในประเด็นดังกล่าวอีก
(3) ทราบว่าวันที่18 ส.ค.คือวันรุ่งขึ้นจะมีการประชุมคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.)จะมีการพิจารณาระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการสอบสวนทางวินัยอัยการระดับรองอัยการสูงสุดและอัยการสูงสุดและทราบว่าประธาน ก.อ.จะเสนอ ก.อ. ขอตั้งกรรมการชุดใหม่ขึ้นสอบนายเนตรอีก
ผมพิจารณาแล้วเห็นว่าคณะทำงานชุดของผมคงประชุมไม่ได้และมีข้อจำกัดในการพิจารณาอีกทั้งระเบียบใหม่ผ่านที่ประชุม ก.อ.ผู้มีอำนาจตามระเบียบใหม่น่าจะเป็นผู้ตั้งกรรมการขึ้นตรวจสอบนายเนตรน่าจะถูกต้องและไม่อยากเห็นต่างฝ่ายต่างตั้งกรรมการมันคงตกต่ำพิลึก เลยตัดสินใจลาออกให้เจ้าหน้าที่นำใบลาไปเสนอ อสส.เช้าวันที่ 18 ได้แจ้งให้เลขาคณะทำงานและเลขา อ สส.ทราบพร้อมทั้งแจ้งไม่ขอรับเป็นกรรมการในเรื่องนี้อีก
ข้อเสนอแนะ
(1) ผู้มีอำนาจในการแต่งตั้งกรรมการตามระเบียบใหม่ซึ่งได้แก่ อสส. น่าจะหาคนที่เป็นกลางมีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับของสังคมมิใช่คนใกล้ชิด อสส.และประธาน ก.อ.เป็นกรรมการตรวจสอบ
(2)ให้กรรมการตรวจสอบมีอำนาจตรวจสอบในทุกประเด็นไม่ใช่มีข้อจำกัดสอบได้เฉพาะบางประเด็นต้องให้เกียรติกรรมการ
(3)ผู้มีอำนาจหรือเคยมีอำนาจในสำนักงานอัยการสูงสุดเลิกออกความเห็น ชี้นำกรรมการไม่มีกรรมการคนไหนอยากทำงานท่ามกลางความขัดแย้ง มีข้อจำกัด และมีข้อชี้นำจากผู้มีอำนาจ
(4)ศรัทธาของประชาชนจะกลับคืนมาได้ความสามัคคีของผู้มีอำนาจต้องเกิดขึ้นก่อน จริงใจในการแก้ปัญหาร่วมกันไม่ใช่เอาปัญหามาเป็นเกมส์ในการแย่งชิงอำนาจ ร่วมกันแก้ปัญหาเถอะครับ