posttoday

ศาลอุทธรณ์เพิ่มข้อหาไซซะนะฐานสมคบค้ายาเสพติด

20 สิงหาคม 2563

ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้เพิ่มข้อหา "ไซซะนะ" หนุ่ม สปป.ลาว ค้ายาข้ามชาติ แต่ยังคงโทษจำคุกตลอดชีวิต

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 20 ส.ค.63 เวลา 09.30 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดียาเสพติด หมายเลขดำ อย.2833/2560 ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายไซซะนะ แก้วพิมพา อายุ 40 ปี (XAY SANA KEOPIMPHA) สัญชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) , นายชุมพร พนมไพร อายุ 43 ปี และนายรัชพล หรือกิมเล้ง รัฐสพลพกรณ์ อายุ 31 ปี เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันสมคบกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และมียาบ้า ซึ่งเป็นเมทแอมเฟตามีน ยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 , พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 100/1, 102 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91

โดยอัยการโจทก์ ยื่นฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 24 ก.ค.- 16 ก.ย.58 จำเลยที่ 1-2 กับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง บังอาจสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปโดยแบ่งหน้าที่กันทำในรูปขบวนการเครือข่ายยาเสพติด โดยจำเลยที่ 1 กับพวกที่อยู่ใน สปป.ลาว ร่วมกันจัดหาเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า และจัดหาเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการลักลอบขนส่งลำเลียงยาเสพติดและจัดหารถยนต์สำหรับซุกซ่อนยาเสพติดจำนวน 2,381,400 เม็ดไปส่งให้กับเครือข่ายทางภาคใต้ของไทย และมาเลเซีย และระหว่างวันที่ 17 - 22 ส.ค. 2559 จำเลยทั้งสาม ยังร่วมกันสมคบกันลักลอบส่งยาบ้าอีกจำนวน 1 ล้านเม็ด ส่งให้เครือข่ายทางภาคใต้โดยติดต่อกับนายไซนุเด็ง มะ ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจำเลยที่ 3 ได้ทำหน้าที่ธุรกรรมการเงินรับโอนเงินค่ายาเสพติดจากนายไซนุเด็งหลายครั้งหลายหน จำนวน 144 ล้านบาท ไปส่งมอบให้เพื่อนของจำเลยที่ 1 ที่ สปป.ลาว อันเป็นการกระทำเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมพวกจำเลยได้พร้อมของกลางหลายรายการทั้งยาเสพติด , รถกระบะที่ใช้กระทำผิด , โทรศัพท์มือถือ เหตุเกิดที่ สปป.ลาว , จ.นครพนม , จ.อุดรธานี , จ.สงขลา และอีกหลายพื้นที่เกี่ยวพันกัน ซึ่งศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 ก.ย.61 ให้ประหารชีวิต “นายไซซะนะ” และ “นายชุมพร” จำเลยที่ 1-2 แต่คำให้การชั้นสอบสวนและคำเบิกความบางส่วนของจำเลยที่1-2 เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1-2 ไว้ตลอดชีวิต และให้นับโทษนายไซซะนะต่อจากยาบ้าคดีแรกจำนวน 1.2 ล้านเม็ด ที่ศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตไปแล้วด้วย โดยพิพากษายกฟ้อง “นายรัชพล” จำเลยที่ 3

ต่อมาอัยการโจทก์ , นายไซซะนะ จำเลยที่ 1 , นายชุมพร จำเลยที่ 2 ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งวันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยจากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง

ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษากันแล้วพิพากษาแก้ว่า นายไซซะนะ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานสมคบกันค้ายาเสพติดเพิ่มอีก 1 ฐานความผิดด้วย แต่ยังคงโทษประหารชีวิต คำให้การจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์อยู่บ้างในชั้นสอบสวนลดโทษให้ 1ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต แต่คำให้การชั้นสอบสวนของ “นายไซซะนะ” มีประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 2 ยังจำคุกตลอดชีวิตตามศาลชั้นต้น ขณะที่จำเลยที่ 3 พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่เพียงพอที่จะพิพากษาลงโทษได้ ให้ยกฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ “นายไซซะนะ” ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2562 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาคดี อย.1642/2560 ให้ประหารชีวิต “นายไซซะนะ” ฐานนำเข้ายาบ้า จำนวน 1.2 ล้านเม็ด เข้ามาในราชอาณาจักรไทยเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตอีกคดีด้วย