posttoday

ดีเอสไอ เห็นแย้งคดีฆาตกรรม "บิลลี่" ส่งสำนวนให้ อสส.พิจารณา

11 สิงหาคม 2563

อธิบดีดีเอสไอทำความเห็นแย้งส่งสำนวนคดีฆาตกรรม"บิลลี่"คืนให้อัยการสูงสุด พิจารณา ยันหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ชี้ชัดใครฆ่า

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.ท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองบริหารคดีพิเศษ นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 13/2562 คดี การฆาตกรรมนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย แก่งกระจาน พร้อมความเห็นของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษส่งอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย หลังจากดีเอสไอได้ตรวจพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวนทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ และโดยเฉพาะพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน กับความเห็นของพนักงานอัยการที่ประกอบการออกคำสั่งไม่ฟ้องแล้ว เห็นว่ายังมิอาจเห็นพ้องด้วยกับคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการดังกล่าว อธิบดีดีเอสไอจึงให้ส่งความเห็นพร้อมสำนวนการสอบสวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.ท กรวัชร์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมาทางสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 สำนักงานคดีพิเศษ ได้มีหนังสือแจ้งมายังอธิบดีดีเอสไอว่า มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา 4ราย คือ ( 1)นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร (2) นายบุญแทน บุษราคัม (3) นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และ (4) นายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศในฐานความผิด 5 ข้อกล่าวหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นฯ,เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งฯข่มขืนใจผู้อื่น, ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ,และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ

แต่อัยการได้ออกคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่1,2,3 คือนายชัยวัฒน์ นายบุญแทนและนายธนเสฎฐ์ เฉพาะความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และออกคำสั่งฟ้องนายกฤษณพงษ์ผู้ต้องที่ 4 ในความผิดฐานสนับสนุนตามข้อกล่าวหาดังกล่าว