posttoday

"นิพิฏฐ์" งัด 4ข้อโต้แย้งอัยการสั่งไม่ฟ้อง "บอส อยู่วิทยา"

27 กรกฎาคม 2563

"นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" เผย 4 ข้อโต้แย้งปมอัยการสั่งไม่ฟ้อง "บอส อยู่วิทยา" ข้องใจคำให้การปมความเร็วรถจาก 177 กม./ชม. เหลือ 76 กม./ชม. แถมมี2พยานใหม่โผล่มาหลังเกิดเหตุ7ปี

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กต่อกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้อง ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังในคดีขับรถชนตำรวจ โดยมีเนื้อหาน่าสนใจดังนี้

เรื่องอัยการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา

-เรื่องอัยการไม่ฟ้องลูกกระทิงแดง นี่ อัยการสรุปว่า เป็นความประมาทของตำรวจ(ผู้ตาย)เพียงฝ่ายเดียว เพราะตำรวจ(ผู้ตาย)ขับรถจักรยานยนต์ ตัดหน้ารถยนต์ลูกกระทิงแดงอย่างกระทันหัน ตอนแรกอัยการสั่งฟ้อง แต่หลังจากพิจารณามานานถึง 8 ปี ก็กลับคำสั่งเดิมเป็น"สั่งไม่ฟ้อง" ด้วยเหตุผล หลักๆ คือ เหตุที่สั่งฟ้องในตอนแรกเพราะ พ.ต.ต.ธนสิทธิ แตงจั่น ผู้ตรวจสอบความเร็วให้การว่า ลูกกระทิงแดงขับรถด้วยความเร็ว 177 กม./ชม.

แต่หลังจากนั้น เมื่อมีการร้องขอความเป็นธรรม พ.ต.ต.ธนสิทธิ แตงจั่น ได้ให้การใหม่เมื่อ 2 มี.ค.2557 ว่าได้คำนวณใหม่แล้ว ความเร็วรถลดลงเหลือเพียง 79 กม./ชม. และได้มีพ.ต.ท.สมยศ แอบเนียน,พ.ต.ท.สุรพล เดชรัตนวิไชย และ รศ.ดร.ลายประสิทธิ เกิดนิยม (ให้การเมื่อ 23 มค.60 หลังเกิดเหตุถึง 5 ปี) ว่า รถยนต์ของนายวรวุทธ อยู่วิทยา ไม่น่าจะขับ 177กม./ชม. แต่น่าจะขับเพียง 76 กม./ชม. จะเห็นว่า เมื่อมีการร้องขอความเป็นธรรม ความเร็วของรถลดลงประมาณ 100 กม./ชม. เหลือเพียง 76 กม./ชม. และอัยการก็เชื่อตามนั้น

-ผมมีข้อโต้แย้ง(ทางวิชาการ) ต่อคำสั่งของอัยการ ดังต่อไปนี้

*ข้อโต้แย้ง ประการที่1. ผมไม่เชื่อความเห็นของพยานที่ให้การกลับคำในภายหลัง และไม่เชื่อคำให้การของพยานที่ให้การหลังเกิดเหตุหลายปี ที่ให้การแตกต่างกันในเรื่องความเร็วรถถึง 100 กม./ชม. ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นกลาง มาพิสูจน์ว่า ความเร็วรถ ว่าน่าจะ177 กม./ชม หรือ 76 กม./ชม. หากเป็น 177กม/ชม. พยานที่ให้การในตอนหลังว่า 76 กม./ชม. ก็น่าจะมีปัญหาแล้วล่ะครับ ตอนนี้น่าจะครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่ไอ ก็จาม อยู่ล่ะครับ ประการสำคัญคือ ในกทม.เขาจำกัดความเร็วรถยนต์ไม่เกิน 80 กม/ชม. ที่พยานให้การตอนหลังว่า 76 กม./ชม. จะเป็นการให้การเพื่อให้สอดคล้องกับการจำกัดความเร็วไม่เกิน 80กม./ชม.หรือเปล่า

*ข้อโต้แย้งประเด็นที่ 2. ผมเห็นว่า สภาพรถยนต์หลังเกิดเหตุ ยับเยิน กระโปรงหน้ายุบ กระจกหน้าแตก น้ำมันเครื่องไหลเป็นทาง รถยนต์คันนี้ราคาจำหน่ายในประเทศไทย คันละ 32 ล้านบาท ถ้ารถราคา 32 ล้านชนด้วยความเร็ว 80 กม/ชม. สภาพรถยับเยินขนาดนี้ เสียชื่อผู้ผลิตหมดครับ

*ข้อโต้แย้งประการที่ 3. จากจุดชนจุดแรก ถึงจุดที่รถจักรยานยนต์ผู้ตายไปตกอยู่ห่างกัน 163.6 เมตร หากความเร็วรถยนต์ 76 กม./ชม. น่าจะหยุดรถได้เร็วกว่านั้น ไม่น่าจะลากยาวไปถึง 163.6 เมตร

*ข้อโต้แย้งประการที่ 4. ผมไม่ให้น้ำหนักพยานบุคคลอีก 2 คน ที่มาให้การเมื่อ 4 ธค.2562 หลังเกิดเหตุถึง 7 ปี ว่าพยานขับรถตามหลังรถลูกกระทิงแดง และเห็นว่าลูกกระทิงแดงขับไม่เกิน 80 กม/ชม. น่าสงสัยว่า พยาน 2 ปากนี้ รออะไรอยู่ถึง 7 ปี จีงเข้าให้การ และเป็นการให้การก่อนที่อัยการจะสั่งไม่ฟ้องไม่กี่เดือน เป็นพิรุธอย่างยิ่งครับ

-กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ ต้องทำให้ชัดปราศจากข้อสงสัย ไม่งั้นกระบวนการยุติธรรมของประเทศพังครับ แล้วประเทศจะพังไปด้วยครับ